เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังปรากฏการณ์ล็อกดาวน์ทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นมากมายบนฟีดของ Instagram คือ ภาพกระท่อมแสนสวยประดับประดาด้วยเถาวัลย์และระแนงดอกไม้ แสงแดดอบอุ่นที่ส่องผ่านใบไม้หนาทึบ ทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้และเห็ดที่กำลังเติบโต โต๊ะน้ำชาและปิกนิกในสวนที่มีร่มเงาใกล้กับลำธาร ขนมปังและสโคนโฮมเมด ชุดเดรสผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มเย็บแบบจับจีบปักด้วยลายสตรอว์เบอร์รีและผีเสื้อ…
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจินตนาการของผู้คนที่ต้องการหลีกหนีจากความน่าสะพรึงกลัวรอบ ๆ ตัว ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นแฮชแท็ก #cottagecore ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กลายเป็นความงามอันโดดเด่นของปี ค.ศ. 2020 เช่นเดียวกับแนวคิดของชาวสแกนดิเนเวียอย่าง hygge (ฮิวก้า) และ friluftsliv (ฟรีลุฟท์สลิฟ) ที่ทำให้สุนทรียศาสตร์ของ Cottagecore (คอทเทจคอร์) ดูโดดเด่นขึ้น
ชนบท ดอกไม้ แสงแดด และเห็ด
สัญลักษณ์ความเรียบง่ายสไตล์ Cottagecore
✿ ✿
แน่นอนว่าแนวคิดใด ๆ ก็ตามจะกลายเป็นเทรนด์ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยอมรับและบอกต่อจากคนดังที่มีชื่อเสียง ไม่นานมานี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน เปิดตัวอัลบั้ม Folklore โดยใช้ภาพโปรโมตที่เธอสวมเสื้อคลุมตัวโคร่งยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศป่าเวิ้งว้างอันเงียบเหงา อัลบัมนี้ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นดิน กลิ่นธรรมชาติ และมีพลังแห่งความโหยหาอดีตอันหอมหวาน Nostalgia ซึ่งสลับไปมาระหว่างความเรียบง่าย ความสะดวกสบาย และการหลบหนี แล้วคำอธิบายของ Cottagecore ก็กลายเป็นเทรนด์ของความงามล้ำเลิศพุ่งเข้าสู่ความนิยมกระแสหลัก
ในฐานะที่เป็นสุนทรียภาพที่ทำให้ความโรแมนติกกลับสู่คุณลักษณะของชาวชนบทแบบดั้งเดิม Cottagecore จึงให้ความสำคัญอย่างมากกับการผสมผสานระหว่างความพอเพียงในชนบทและการตกแต่งที่ละเอียดอ่อน พร้อมกับความคิดคำนึงโหยหาอดีต ขณะเดียวกันก็ต่อต้านความทันสมัย ซึ่งส่วนใหญ่จะปรากฏบนโลกอินเทอร์เน็ต ทั้ง Tumblr, Pinterest, Instagram และ Facebook
หัวใจของ Cottagecore เน้นไปที่จินตนาการของเหล่านักหลบหนีชีวิตสมัยใหม่ โดยโพสต์ของพวกเขาจะเต็มไปด้วยภาพเห็ดที่กำลังเติบโต ชุดเดรสยาวเป็นคลื่น ผ้าปูโต๊ะลายตาราง ตะกร้าดอกไม้ป่า ขนมปังซาวโดว์ (Sourdough) และสวนมอสในขวดแก้ว (Terrarium) รวมไปถึงบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยลำธาร ป่าไม้ หอยทาก หรือกิจกรรมการทำเทียนขี้ผึ้ง การถักดอยลี่ (Doily) การทำฟาร์มสัตว์ การอาบน้ำท่ามกลางขุนเขา และการใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบชนบท
“Cottagecore เป็นสไตล์การใช้ชีวิตแบบเนิบช้า อยู่กลางแจ้ง และมักจะหมายถึงบ้านในแถบชนบท ที่ผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างอบอุ่นเต็มไปด้วยธรรมชาติ ปลูกผัก ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง ปิกนิกในสวน เสมือนเด็กสาวในวรรณกรรมเรื่อง Anne of Green Gables และ The Secret Garden มาพบกัน” ลูซี แบล็กคอล
ผู้ใช้ชีวิตตามเทรนด์ Cottagecore กล่าว พร้อมระบุว่า สภาพแวดล้อมในเมือง Oxfordshire แห่งสหราชอาณาจักร เป็นเมืองในอุดมคติของการใช้ชีวิตในชนบท และเข้ากันได้ดีกับสุนทรียภาพแบบ Cottagecore
แบล็กคอล โพสต์ภาพชนบทในอังกฤษมานานกว่าหนึ่งปีบน Instagram ของเธอ (@hercountryliving) และเข้าร่วมกลุ่ม Cottagecore ในช่วงเริ่มต้นของการล็อกดาวน์ เธอเติบโตขึ้นในหมู่คนที่ชอบงานฝีมือเหมือน ๆ กัน และได้แบ่งปันเคล็ดลับเกี่ยวกับแฟชั่นการแต่งบ้าน การจัดสวน และทุกสิ่งที่ทำให้สบายใจ
Photo Credit: grove_cottage_/ Instagram
สำหรับ Cottagecore เชื่อมโยงกับสุนทรียศาสตร์ที่ขับเคลื่อนความคิดถึงอื่น ๆ เช่น Faeriecore, Farmcore และ Grandmacore ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 2020 ความนิยม Cottagecore เพิ่มสูงขึ้น โดยโซเชียลมีเดียอย่าง Tumblr มีการติดแฮชแท็ก #cottagecore เพิ่มขึ้น 153% ในขณะที่จำนวนไลก์ของโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับ Cottagecore เพิ่มขึ้นถึง 500%
ความปรารถนาแรงกล้าที่จะใช้ชีวิตเรียบง่าย
✿ ✿
เมื่อแนวคิดการอยู่อย่างโดดเดี่ยวและการอยู่บ้าน กลายเป็นความโรแมนติกและการสร้างแรงบันดาลใจ เทรนด์ Cottagecore จะช่วยให้สถานการณ์ล็อกดาวน์ลดความน่ากลัวลงได้จริงหรือ?
Quilt.AI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ในสิงคโปร์ ซึ่งใช้ AI เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ ได้วิเคราะห์โพสต์บน Instagram มากกว่า 300 โพสต์ ที่ติดแฮชแท็ก #cottagecore และสรุปว่า อารมณ์ของผู้โพสต์ส่วนใหญ่คือ มีความคิดสร้างสรรค์ (28%) ตามด้วยมีความเสน่หา (19%) และมีความสันโดษ (10%) นอกจากนี้ยังพบว่า ในปี ค.ศ. 2019-2020 ผู้ใช้ Instagram ค้นหาเสื้อผ้าแพทเทิร์นกิงแฮม (Gingham) หรือลวดลายตารางสี่เหลี่ยม และสไตล์ Milkmaid หรือสาวรีดนมวัว เพิ่มขึ้นเกือบ 30%
แองแกด ชาวด์รี ผู้ร่วมก่อตั้ง Quilt.AI กล่าวว่า “ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ เดินหน้ารับมือสถานการณ์หลังโควิด-19 เราพบว่ามีแรงดึงดูดทางบวกและความสุขเพิ่มขึ้น เราเห็นผู้คนกลับไปใช้ชีวิตแบบคนเมืองน้อยลง สิ่งที่ผมสนใจคือ การขาดการเชื่อมต่อกันเกือบจะเป็นการก้าวข้ามความทันสมัยในเมือง”
Photo Credit: Beatrice Harvey/ www.prindlepost.org
“Cottagecore บ่งบอกถึงความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตเรียบง่ายและต่อต้านความทันสมัย มันเป็นปฏิกิริยาที่เท่าเทียมกันและตรงข้ามกับการกระทำอันด่างพร้อย การไร้อำนาจ และความไม่สัมพันธ์กันของ Mise en scene (มิส-ซ็อง-แซน) หรือ การจัดวางองค์ประกอบภาพ ร่วมสมัยของเรา” ชาวด์รี กล่าว
การวิเคราะห์ของ Quilt.AI ยังเผยให้เห็นว่า แม้สัญลักษณ์ทั่วไปของธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ ใบไม้ ผึ้ง และเห็ด ถูกนำมาใช้มากมาย แต่อิโมจิอันดับต้น ๆ ที่บ่งบอกถึงสไตล์ Cottagecore คือประกายไฟที่แสดงถึงเวทมนตร์และความพิศวง และนั่นคือการบอกใบ้เป็นนัยว่า Cottagecore หมายถึง สรวงสวรรค์อันน่าอัศจรรย์
ผู้ใช้ชีวิตสไตล์ Cottagecore ก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เช่นกัน นาโอมิ สจวร์ต เจ้าของบัญชี Instagram @grove_cottage_ เล่าว่า “ฉันเริ่มใช้แฮชแท็ก #cottagecore ในช่วงแรกของการล็อกดาวน์ ในตอนนั้นการตีความแฮชแท็กของฉันคือ การใช้ชีวิตแสนอบอุ่นและโรแมนติกในกระท่อมชนบทสไตล์วิคตอเรียนอันงดงาม ฉันหวังว่าความเงียบสงบในชนบทจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองหรือคนที่ไม่มีสวนเป็นของตัวเองมีความสุขสงบท่ามกลางความบ้าคลั่งที่เป็นอยู่”
แม้ผู้ใช้ชีวิตสไตล์ Cottagecore อาจมีเพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แต่ก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ยังคงดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของความพอเพียงและการทำเกษตรเพื่อยังชีพ แนวคิดดังกล่าวเริ่มฟื้นตัวในช่วงทศวรรษที่ 1960-70 แล้วต่อมาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยแฝงมากับความฮิปสเตอร์ (Hipster) ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ยังเสนอให้มีการปรับใช้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนและนำความรู้การปลูกผักจากบรรพบุรุษมาใช้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ชนบทก็ตาม
Photo Credit: The women’s Heritage sourcebook/ bcc.com
วิถีชีวิตแห่งการพึ่งพาตนเอง
✿ ✿
เมื่อต้นปี ค.ศ. 2020 หนังสือ The Women’s Heritage Sourcebook ได้รับการตีพิมพ์ ซึ่งอธิบายถึงการอยู่อาศัยแบบ “การพึ่งพาตนเองและความยั่งยืน โดยมีลักษณะการทำสวนที่บ้าน รวมถึงการผลิตสิ่งทอ เสื้อผ้า และงานฝีมือในปริมาณเล็กน้อย”
ลอเรน มัลลอย ผู้ร่วมเขียนหนังสือเล่มนี้ กล่าวว่า
“ดูเหมือนว่าการแพร่ระบาดของโรคร้ายจะทำให้บางคนมองเห็นคุณค่าของการผลิตสินค้าด้วยตนเอง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น (แน่นอนว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยเห็นคุณค่าสิ่งเหล่านี้มาก่อน) ช่วงเวลานี้อาจเป็นเวลาดีที่จะคิดถึงการพึ่งพาตนเองและค้นหาทักษะดั้งเดิมบางอย่างที่คนรุ่นก่อนเคยมี”
รูปแบบการใช้ชีวิตสไตล์ Cottagecore และการกลับไปใช้วิถีดั้งเดิมที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์เสื้อผ้าและการตัดเย็บ โดยความหลากหลายของชุดจะเป็นเดรสที่แมทช์กับทุ่งหญ้าและผ้ากันเปื้อนที่ปักด้วยลวดลายธรรมชาติ เช่น เห็ด ก้านดอกไม้ และผีเสื้อ ซึ่งในความเป็นจริงผู้ใช้ชีวิตสไตล์ Cottagecore ไม่เพียงแต่ออกแบบและตัดเย็บชุดแปลก ๆ ของตนเองเท่านั้น แต่ยังทำให้เหล่านางแบบใส่และขายผ่านบัญชี Instagram ของพวกเขาด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อย่างการทำหมวกเบเร่ต์และกระเป๋าปัก ไปจนถึงการพิมพ์ Eco Printing ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การออกแบบผ้าคลุมไหล่ ผ้าห่ม และการถักนิตติ้งและโครเชต์
แน่นอนว่าพื้นฐานของสุนทรียศาสตร์มักจะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น การดูแลตนเองและความมัธยัสถ์ “ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กระบวนการสร้าง การทำ และความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ได้ถูกกำจัดไปแล้ว แต่เรายังคงชอบการดำเนินชีวิตที่เนิบช้า ความรู้สึกมีปฏิสัมพันธ์กัน และการสร้างประสบการณ์ที่มีความหมาย” มัลลอย กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา
- Anita Rao Kashi. ‘Cottagecore’ and the rise of the modern rural fantasy. www.bbc.com/culture/article/cottagecore