Kind People

Bom Booth Book — เรื่องเล่าจาก ‘ลุงบอม’ พ่อค้าหนังสือเก่า

“ลูกค้าทุกคนคือครู แม้กระทั่งเด็กเล็ก ๆ ที่มาซื้อหนังสือการ์ตูน ลุงก็เรียนรู้จากเขา”

ประโยคบอกเล่าจาก “ลุงบอม – พิเชษฐ์ เพชรรูจี” เจ้าของร้านหนังสือเก่า “บอม บูธ บุค” วัย 67 ปี ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวของหนังสือเก่าเก็บสะสมให้ลูกค้าหลายต่อหลายรุ่นรับฟัง บางคนถึงกับเรียกร้านหนังสือของลุงบอมว่าขุมทรัพย์เลยทีเดียว


ฤกษ์งามยามดี KiNd แวะมาพูดคุยกับลุงบอมที่ดองกิมอลล์ ทองหล่อ ชั้น 3 ที่นี่เป็นที่ตั้งของร้านหนังสือเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยกองหนังสือมหึมา เสมือนพวกมันกำลังรอฟ้าบันดาลให้ใครสักคนมาค้นพบ เราเชื่อว่า… หากคุณมาเยือนน่าจะได้หนังสือที่ต้องตาต้องใจกลับไปสักเล่มสองเล่ม

จากนักสะสม นักเขียน สู่นักขาย

“ก่อนหน้ามาขายหนังสือ ลุงเก็บสะสมหนังสือไว้เยอะมาก เก็บมาตั้งแต่สมัยทำงานบนเรือ ท่องไปหลายประเทศ ซื้อสะสมไว้ พอปี 2529 กลับไทยก็หอบหนังสือมาด้วย ส่วนใหญ่เป็นหนังสือต่างประเทศ จากนั้นก็มีคนแนะนำให้มาเขียนคอลัมน์ในนิตยสารแปลก รายสัปดาห์ งานเขียนเรื่องแรกคือ ‘ขุดขึ้นมาดูปอมเปอี’ เขียนทุกสัปดาห์กว่า 40 สัปดาห์ แล้วก็มีงานเขียนบทความอีกหลายเรื่อง ลุงสะสมหนังสือไว้เยอะมาก จนได้เอาออกมาขาย ถึงตอนนี้ก็เกือบ 40 ปีแล้ว”

บางคนบอกว่าร้านหนังสือลุงบอมคือขุมทรัพย์

“ถ้าคนไม่เคยเห็นหนังสือเก่า เขาอาจจะคิดว่าร้านลุงเป็นขุมทรัพย์ แต่ถ้าคนอยู่ในวงการหนังสือจริง ๆ จะบอกว่า ‘เล่มนี้มีแล้ว’ หรือ ‘เล่มนี้ก็ธรรมดา’ บางคนเขาไม่เคยเห็นหนังสือเก่าขนาดนี้มาก่อนก็เรียกลุงว่าตำนาน ลุงก็ขำ แต่ถือเป็นการเรียนรู้กันไป”

ลูกค้าคือครู

“ลูกค้าทุกคนคือครู แม้กระทั่งเด็กเล็ก ๆ ที่มาซื้อหนังสือการ์ตูน ลุงก็เรียนรู้จากเขา จนถึงตอนนี้ลุงยังเรียนรู้ไม่หมด ลูกค้าร้อยคน พันคน หมื่นคน หลากหลายอาชีพ แต่ละอาชีพจะสอนเรา สงสัยมั้ยว่าทำไมลุงถึงขายการ์ตูนด้วย เพราะมีเด็ก ๆ ที่เป็นลูกค้าเขาสอน ลุงได้เรียนรู้ว่าเด็กเขาอ่านแบบนี้กัน หรือลูกค้าที่เก่งเกี่ยวกับการแต่งบ้าน เป็นสถาปนิก ลุงก็เรียนรู้เกี่ยวกับหนังสือแต่งบ้านจากเขาไปด้วย”

อยากได้ลูกเสือ ต้องเข้าถ้ำเสือ

“สมัยก่อนลุงไปบุกเบิกหนังสือธรรมะที่วัด อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ ขับรถออกจากกรุงเทพฯ เอาหนังสือไปขายที่วัดไกลสุดก่อน ไปอุบลราชธานีแล้วค่อยเขยิบเข้ามาในกรุงเทพฯ ทะลุทุกตรอกทุกซอกทุกซอยที่มีวัด ไปพบเจ้าอาวาส บางครั้งก็เจอพระปฏิเสธว่า ‘ไม่อ่านหรอก หนังสืออยู่ในใจอยู่แล้ว’ บางวัดที่ลุงไปก็ไม่มีเงินเลย ขอให้บริจาคแทน เราก็ถวายให้ สรุปเราต้องเป็นคนออกค่าหนังสือนั้นเอง แต่การเอาหนังสือบริจาควัดเป็นข้อดี เพราะเมื่อญาติโยมมาที่วัด เขาเห็นหนังสือ เขาอยากได้บ้าง ก็ติดต่อมาซื้อหนังสือกับเรา”

หนังสือเก่า คนซื้อต้องเห็นกับตา

“บางคนคิดว่าก็แค่หนังสือเก่าทำไมจะขายบนออนไลน์ไม่ได้ คนอื่นลุงไม่รู้นะ แต่ลุงต้องศึกษาเล่มนั้นก่อนถึงจะขาย เราต้องเข้าใจความเฉพาะของหนังสือเก่าก่อนว่ามันมีตำหนิ บางทีคุยกันทางออนไลน์ ลุงบอกว่าเล่มนี้ 120 ปีเลยนะ ลูกค้าสนใจสั่งซื้อ แต่พอได้รับของแล้วก็โทรมาด่า ‘ทำไมหนังสือถลอก ถ้ารู้อย่างนี้ไม่ซื้อหรอก’ กลายเป็นเสียความรู้สึกทั้งคนขายและคนซื้อ แต่ถ้าคุณมาซื้อหน้าร้าน มาเห็นว่าหนังสือสภาพเป็นแบบนี้นะ มาคุยกัน ตกลงใจได้ แบบนี้คุณก็พอใจที่จะจ่าย บางคนถามว่าทำไมไม่ขายออนไลน์ ขนาดลุงซื้อของออนไลน์ยังได้ของไม่ดีเลย”

การขายหนังสือ ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ถ้าคิดว่าไปซื้อหนังสือแล้วมาขายต่อบนออนไลน์ คุณก็จะขายได้แต่หนังสือใหม่ ๆ หรือหนังสือยอดฮิตที่คนต้องการในช่วงเวลานั้น บางทีคนขายไม่รู้หรอกว่าหนังสือเล่มนั้นเป็นยังไง การขายหนังสือคุณต้องมีใจรักก่อน ไม่งั้นก็อยู่กับมันไม่ได้ ช่วงแรกที่ลุงเปิดขายที่เกตเวย์ เอกมัย ตั้งแต่ 10 โมงเช้า บิลแรกที่ได้คือ 6 โมงเย็น อาศัยใบบุญจากคนมางานศพที่วัดธาตุทอง เขาแวะมาทานข้าวที่ห้างแล้วรอไปงานศพตอนเย็น ก็แวะมาซื้อหนังสือที่ร้านลุง”

เทคนิคการขายของพ่อค้าวัยเก๋า


“ลุงเก็บหนังสือเก่าไว้เยอะมาก หลายเล่มไม่มีวางโชว์ จะเก็บไว้ให้คนที่อยากได้จริง ๆ บางคนมาถามหาหนังสือของจิตร ภูมิศักดิ์ ลุงจะถามว่าเอาไปทำอะไร รู้จักจริงมั้ย ถ้าลุงหยิบขึ้นมาเขาซื้อแน่นอน ต่อให้ตั้งราคา 4,000 บาท เขาก็ซื้อ เพราะอยากได้ ไปหาที่อื่นไม่ได้แล้ว ถามว่าทำไมลุงขายแพง ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน ลุงซื้อของราคาตามป้าย ไม่ต่อราคา สมมติปี 2530 ลุงซื้อเล่มนี้มา 500 บาท พอเวลาผ่านไปกลายเป็นของหายาก คนที่เห็นคุณค่าต้องการหนังสือเล่มนี้ เขาก็ยอมจ่าย”

มองขาดลูกค้า สร้างยอดขายเพิ่ม

“คำแรกที่ลูกค้าเดินมาหาลุงแล้วเอ่ยถาม ลุงจะรู้เลยว่าเขาจะซื้อหรือไม่ซื้อ อย่างเช่น ‘อะไร ราคานี้เลยหรือ’ อันนี้ยังห้าสิบห้าสิบ แต่ถ้าพูดว่า ‘เล่มนี้ลดได้มั้ย’ ลุงได้เงินจากเขาแน่นอน หรือถ้าใครเข้ามาแล้วมีงบ 1,000 บาท ลุงรับรองว่าเขาจะได้เล่มที่อยากได้กลับไป สมมติลูกค้ามาด้วยกันสองแม่ลูก ลูกอยากได้หนังสือ แต่คนจ่ายเงินคือแม่ ถ้าเขาหยิบมา 2 เล่มแล้วถามว่าราคาเท่าไหร่ ลุงหยิบหนังสือเพิ่มให้เขาอีกเลย 2 เล่ม รวมเป็น 4 เล่ม ลุงคิด 1,000 บาท ปิดการขายได้แล้ว”

ก่อนจบบทสนทนาลุงบอมเล่าว่า ปัจจุบัน บอม บูธ บุค มี 3 สาขา ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเกตเวย์ เอกมัย, ดองกิมอลล์ ทองหล่อ และศูนย์การค้าธัญญา พาร์ค ศรีนครินทร์ และในอนาคตกำลังจะเปิดสาขาที่ 4 ณ หอศิลปกรุงเทพมหานคร

แม้เราจะไม่ได้ถามลุงบอมตรง ๆ ว่า คนขายหนังสือคืออาชีพที่รักหรือเปล่า แต่จากการฟังเรื่องราวที่ลุงเล่าและการที่ลุงอยู่กับกองหนังสือมหาศาลมากว่า 40 ปี เชื่อว่าทุกคนน่าจะได้คำตอบแล้วเช่นกัน

หากใครสนใจไปเยี่ยมเยียนร้านหนังสือเก่า “บอม บูธ บุค” และพูดคุยกับพ่อค้าหนังสือวัยเก๋า โทร.หาลุงบอมได้เลยที่ 083-589-2256 คุณอาจจะพบหนังสือที่คุณรักก็เป็นได้


เรื่องโดย

ภาพโดย