หากกล่าวถึง การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักคำนี้ ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 การนำมาตรการนี้มาใช้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และตอนนี้ก็ได้กลายเป็น วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ของคนทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย
อันที่จริงวิถีชีวิตใหม่ที่ถูกบัญญัติขึ้นมาในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่มีมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 17 หรือประมาณ 400 ปีที่แล้ว ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ขณะนั้นทั่วทั้งยุโรปกำลังเผชิญหน้ากับการระบาดของกาฬโรคครั้งใหญ่ ซึ่งอิตาลีเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน จากจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมากเกินกว่าจะนับไหว กาฬโรคจึงได้พ่วงคำว่า “อิตาลี” ต่อท้ายลงไป “กาฬโรคอิตาลี” จึงเป็นตัวสะท้อนที่แสดงให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดจากโรคระบาดครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี
แต่ชาวอิตาลีก็ไม่ได้ย่อท้อต่อโรคระบาดที่เกิดขึ้น และได้พยายามหาวิธีรับมือกับโรคที่ยังไม่รู้วิธีรักษา ผ่านการเว้นระยะห่างทางสังคม และลดการพบปะผู้คนให้มากที่สุด โดยทำการเจาะช่องเล็ก ๆ บนกำแพงร้าน “หน้าต่างไวน์” หรือ “Buchette del vino” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งช่องเล็ก ๆ ที่เจาะจะมีขนาดพอดีกับแก้วไวน์ โดยมีความกว้าง 20 เซนติเมตร และสูง 30 เซนติเมตร
ในแต่ละร้านก็จะมีวิธีการจำหน่ายไวน์ที่แตกต่างกันไป เช่น บางร้านจะส่งไวน์ผ่านท่อโลหะให้ไหลลงไปยังขวดไวน์ของลูกค้า เพื่อลดการสัมผัสระหว่างกันให้มากที่สุด นอกจากนั้นได้ปรับเปลี่ยนวิธีการรับเงินจากผู้ซื้อด้วยการให้วางเหรียญไว้บนถาดโลหะ จากนั้นก็ราดน้ำส้มสายชูลงในถาดเพื่อทำความสะอาดก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า
ต่อมาหน้าต่างไวน์ก็ได้เกิดขึ้นทั่วทั้งเมืองฟลอเรนซ์ และกลายเป็นประเพณีการซื้อขายไวน์ที่สืบทอดต่อกันกว่าหลายร้อยปี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1966 ทำให้หน้าต่างไวน์ที่ทำจากไม้หลายบานได้รับความเสียหายจนต้องปิดตัวลงไป ซึ่งในปี ค.ศ. 2015 ชาวเมืองฟลอเรนซ์จึงได้จัดตั้งองค์กรวัฒนธรรม The Wine Windows Association ขึ้น เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา นอกจากนั้นทางองค์กรยังได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลหน้าต่างไวน์ที่หลงเหลืออยู่ทั่วทั้งแคว้นทัสกานีเพื่อทำแผนที่หน้าต่างไวน์ โดยสามารถรับชมได้ที่นี่
Photo Credit: www.buchettedelvino.org
ปัจจุบันร้านอาหารในฟลอเรนซ์หลาย ๆ ร้านได้นำประเพณีการซื้อขายไวน์ผ่านช่องหน้าต่างกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่จะขายไวน์เพียงอย่างเดียว ตอนนี้ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นช่องทางการขายอาหารที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ค็อกเทล แซนด์วิช และไอศกรีม
อ้างอิง
- Lisa Harvey. Babae Wine Window. www.atlasobscura.com
- Daria Labutina. Free window: Italy remembered the tradition of the plague. www.gazeta.ru
- Caitlin O’Kane. Italy’s “wine windows” used during the plague, reopen for contactless food and alcohol sales. www.cbsnews.com
- Ben O’Donnell. Florence’s Renaissance ‘Wine Windows’ Reveal New Secret. www.winespectator.com
- Michelle Baran. Italy’s Plague-Era “Wine Windows” Return for Pandemic-Proof Drink Service. www.afar.com