Kind Journey

“เชอร์ราปุนจี” เมืองที่ฝนตกชุก แต่ไฉนคน(อินเดีย)ไม่พกร่ม

บางคนชอบฝน บางคนเกลียดฝน แล้วจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่ที่ฝนตกชุกตลอดทั้งปี KiNd ชวนสำรวจเมืองที่เรียกได้ว่ามีฝนตกชุกมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เชอร์ราปุนจี” (Cherrapunji) หนึ่งในเมืองของ​รัฐ​เมฆาลัย ประเทศอินเดีย ที่มีฝนตกแทบจะทั้งวันทั้งคืน ตกเกือบตลอดทั้งปี!


“สะพานมีชีวิต”
หมุดหมายของการมาเยือนเชอร์ราปุนจี

รัฐเมฆาลัย เป็นรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย โดยชื่อรัฐเองมีความหมายว่า “ที่อยู่ของมวลเมฆ” เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอย่างมาก ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ทะเลสาบ ป่าไม้ และสัตว์ป่านานาพันธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีฝนตกสม่ำเสมอ

แต่อาจจะมากไปสักหน่อยสำหรับเมือง “เชอร์ราปุนจี” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทือกเขากาสิตะวันออก (East Khasi Hills) เพราะที่นี่ได้รับปริมาณน้ำฝนมากถึง 12,000 มิลลิเมตรต่อปี มากขนาดไหนก็ลองเทียบกับประเทศไทยที่มีสถิติอยู่ที่ประมาณ 1,800 มิลลิเมตรในปี 2565 มากเลยใช่ไหมล่ะ เพราะฤดูฝนปีที่ผ่านมาของประเทศไทยเรียกได้ว่าชุ่มฉ่ำกันทีเดียว 

ไฮไลต์สำคัญที่บรรดานักท่องเที่ยวต้องทำเมื่อไปเยือนเชอร์ราปุนจีคือ เดินป่า โดยเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเส้นทางที่นำไปสู่ Double Decker Living Root Bridge หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สะพานมีชีวิต” ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนองริยาต (Nongriat) ซึ่งต้องใช้เวลาเดินป่าอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง ที่นั่นมีรากของต้น Ficus Elastica หรือ Rubber Fig ที่ชาวบ้านช่วยกันถักสานเป็นสะพานขึ้นมาเพื่อใช้ข้ามลำธาร ชาวบ้านได้ใช้ลำต้นของต้น Betul Nut กำหนดทิศทางรากของต้น Rubber Fig รากจะเลื้อยพันไปตามลำต้นและข้ามลำธาร จนไปลงดินอีกฟากฝั่ง พวกเขาใช้เวลารังสรรค์ขึ้นมาตลอดระยะเวลา 15 ปี จนเกิดเป็นสะพานมีชีวิต และได้รับการสืบทอดธรรมเนียมปฏิบัตินี้มานานกว่า 500 ปี จวบจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร สะพานมีชีวิตแห่งนี้ยิ่งทนทานมากเท่านั้น มันเติบโตหยั่งรากลึกลงไปในผืนดินอย่างแข็งแกร่ง สามารถรับน้ำหนักได้ครั้งละ 50 คนเลยทีเดียว


ไม่มีเดือนใดที่ไม่มีฝนในเชอร์ราปุนจี

แม้เชอร์ราปุนจีจะมีฤดูฝนตลอดทั้งปี ไม่มีเดือนใดที่ไม่มีฝน เหมือน ๆ กับที่ไม่มีเดือนใดไม่ร้อนในประเทศไทย ที่เชอร์ราปุนจีจะมีฝนตกมากสุดในเดือนกรกฎาคม แต่ฝนที่ตกนั้นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ทำให้ไม่ต้องกังวลมากนักหากไปเยือนเชอร์ราปุนจีแล้วกลัวจะไม่ได้เที่ยว!

เมื่อย่างเข้าสู่เดือนกันยายน จังหวะของสายฝนก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนทิศทางไปอย่างนุ่มนวล ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นเริ่มมองเห็นสีท้องฟ้าเปลี่ยนไป จากสีเทาตลอดทั้งปีก็เริ่มปรากฏสีพาสเทลอ่อน ๆ ขึ้น แล้วเมื่อใดที่ฝนจางหายก็มักเกิดสายรุ้งพาดผ่านขึ้น เปรียบดั่งการต้อนรับฟ้าวันใหม่ แต่ก็เพียงชั่วคราว เพราะฝนก็ยังหลั่งรินอยู่เสมอ เพียงอ่อนกำลังลงเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม แม้เชอร์ราปุนจีจะขึ้นชื่อว่าฝนตกชุก แต่เมืองนี้ก็ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ชาวบ้านต้องเดินทางไกลเพื่อหาน้ำจืด ฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้งทำให้เกิดการพังทลายของดิน ซึ่งทำให้ผืนดินและหุบเขาพังทลายเสียหายนับครั้งไม่ถ้วน สำหรับนักท่องเที่ยวอาจเลือกช่วงเวลาไปเยือนได้ แต่ชาวบ้านที่นั่นต้องคอยรับมือกับพิบัติภัยนี้เสมอ

อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถสังเกตเห็นได้คือ แม้ฝนจะตกอยู่ตลอดเวลา แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่กางร่ม อาจจะด้วยความเคยชินและคุ้นเคยกับหยาดฝนที่โรยรินอย่างไม่ขาดสาย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ร่มเป็นหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดเมื่อไปเยือนเชอร์ราปุนจี เมืองที่ฝนตกชุกแห่งหนึ่งของโลกในแดนภารตะ


อ้างอิง

  • CHERRAPUNJI TOURISM. India.com.
  • Cherrapunji Travel Guide. Tourism of India.
  • อินเดีย : หวนคืนสู่สะพานมีชีวิตแห่งเมฆาลัย. NG Thai.

เรื่องโดย