ช่วงนี้เป็นซีซั่นทุเรียน เดินไปทางไหนก็ได้แต่กลิ่นหมอนทอง ก้านยาว หรือพวงมณีโชยมา แต่ใครบ้างจะรู้จัก “ทุเรียนภูเขาไฟ” ราชาผลไม้ที่ปลูกจากดินลาวาเก่าทับถมกว่าร้อยปี พ่วงด้วยคุณสมบัติ “เมล็ดลีบ เปลือกบาง เนื้อเนียนแบบคัสตาร์ด” จะดีแค่ไหน ถ้าเราได้ลิ้มลองทุเรียนภูเขาไฟแบบส่งตรงจากสวน
วันนี้ KiNd เชิญชวนทุกท่านมาล้อมวงทานทุเรียนภูเขาไฟใน “เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ by คู่ขวัญ” พร้อมร่วมวงสนทนา พูดคุยสไตล์กันเอง กับคุณกัญจณ์ เครือแก้ว และคุณเอ๊ะ อรณษา เครือแก้ว แห่งร้านส้มตำคุณกัญจณ์ จะเอร็ดอร่อยขนาดไหน มาติดตามกันได้เลย
เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ จะมีการกรีดเปลือกเป็นสามเหลี่ยมด้านบนแล้วจิ้มดูเท่านั้น
เพราะแตกต่าง จึงพิเศษ
● ● ●
“ทุเรียนภูเขาไฟมีมานานแล้วแต่ไม่ได้รับการโปรโมต” คุณกัญจน์กล่าวสั้น ๆ ก่อนคุณเอ๊ะจะเสริมว่า “ขึ้นชื่อว่าเป็นทุเรียนอีสาน ผู้คนอาจไม่คุ้นหูและไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่บังเอิญว่าพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขุนหาญ อำเภอศรีรัตนะ และอำเภอกันทรลักษ์ ในจังหวัดศรีสะเกษ เป็นพื้นที่ดินลาวาภูเขาไฟเก่า
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเมื่อ 2 สมัยที่แล้ว ได้ผลักดันให้ทุเรียนภูเขาไฟได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพราะทุเรียนภูเขาไฟมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่โดดเด่น โดยเฉพาะทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่หมู่บ้านซำตารมย์ ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นบ้านเกิดของคุณกัญจณ์ ซึ่งเราก็กินมาตลอด
“แต่ตอนนั้นเราเข้าใจว่าเป็นทุเรียนบ้านที่ปลูกเองมันเลยอร่อย พอกลับไปศึกษาค้นคว้าจริง ๆ ปรากฏว่าเป็นเพราะดินลาวาภูเขาไฟมีความพิเศษ เนื่องจากการทับถมของแมกมาหลายร้อยหลายพันปี ดินจึงอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ทำให้ทุเรียนภูเขาไฟที่ปลูกด้วยดินนี้มีความแตกต่าง อันดับแรกคือ กลิ่นไม่ฉุน อีกทั้งยังมีเมล็ดลีบ เปลือกบาง และมีเนื้อเนียนแบบคัสตาร์ด รสชาติจะมีความนวลเนียน ละมุนลิ้น เมื่อทานแล้วจะไม่เรอ ไม่มีกลิ่นติดปาก และไม่มีอาการร้อนในตามมา เราเคยทานทุเรียนมาตลอดชีวิตของเรา แต่พอได้มากินทุเรียนภูเขาไฟ เราว่าามันอร่อยที่สุดแล้วในราคาที่เราจับต้องได้ อยากให้ทุกคนได้มาลองค่ะ”
คุณสมบัติพิเศษของทุเรียนภูเขาไฟคือ มีเปลือกบาง เนื้อเนียนนวลน่าสัมผัส
ทุเรียนภูเขาไฟกับ Concept “เมล็ดลีบ เปลือกบาง เนื้อเนียนแบบคัสตาร์ด” ไม่เกินจริง
แม้พูด้านในจะไม่ใหญ่มากนัก แต่รสชาติที่ได้นั้นนุ่มละมุนลิ้นสุด ๆ
เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ by คู่ขวัญ จะห่อทุเรียนให้ทั้งเปลือก เพื่อความสดใหม่ของทุเรียนและทำให้รสชาติสดใหม่เหมือนเพิ่งผ่า
เหตุเกิดเพราะโควิด-19
● ● ●
“ครั้งแรกที่เรานำทุเรียนภูเขาไฟมาขายคือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ร้านส้มตำของเราก็ปิด ๆ เปิด ๆ ด้วยความที่เราเป็นเจ้าของกิจการ เรามีลูกน้องที่ต้องดูแล และเริ่มเล็งเห็นทุเรียนภูเขาไฟส่งขึ้นห้างในราคาที่ค่อนข้างสูง เราก็คิดว่าจะดีกว่าไหมถ้าลูกค้าได้ลิ้มลองของอร่อยส่งตรงจากศรีสะเกษในราคาที่จับต้องได้ หากต้องสั่งออนไลน์ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง จะได้ความสุกแบบที่ต้องการไหม การขนส่งจะส่งผลกระทบหรือไม่ เราจึงมีความคิดว่า เราไปจัดการให้เองดีกว่า ซึ่งเราคัดทุเรียนจากสวนเกรดเดียวกับที่ทำส่งห้างเลย แม้จะมีอุปสรรคเยอะมาก ในปีแรกเราจ่ายค่าเรียน (ขาดทุน) ไปเป็นครึ่งล้าน ด้วยความที่เราไม่เคยขายทุเรียนมาก่อน แม้แต่ปลอกทุเรียนก็ยังทำไม่เป็น ทุกอย่างต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด” คุณเอ๊ะกล่าว
แพ็กสวยงามตามท้องเรื่อง! สามารถนำไปเป็นของฝากได้ด้วยนะ
ทุเรียนภูเขาไฟของเราเป็นออร์แกนิคและไม่มีการป้ายยา ทุเรียนจึงมีการสุกไล่พู
“เราไม่เข้าใจว่าจะต้องมีการบ่มสุกอย่างไร เก็บอย่างไร และขายอย่างไร เราปล่อยเขาแก่ลงเรื่อย ๆ เมื่อแก่ลง ความฉ่ำน้ำก็หายไปด้วย ในปีนั้นเราขาดทุนแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี เป็นประสบการณ์ให้เราในปีถัดมาได้” คุณกัญจณ์เสริม
เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ by คู่ขวัญ มาพร้อมแพ็กเกจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แรกเริ่มจากการเรียนรู้ในยูทูป สู่การเป็นมือฉมังในการปลอกทุเรียนของร้านไปแล้ว
ขนาดของลูกไม่สำคัญ เพราะความอร่อยวัดกันที่ข้างใน
ส่งเสริมคุณภาพจากชาวสวน คู่ควรแก่คุณ
● ● ●
คุณกัญจณ์อธิบายว่า “ต้องบอกว่าสวนเหล่านี้ก็เป็นสวนจากพี่ป้าน้าอา ซึ่งในหมู่บ้านมี 2 กลุ่มที่ผลิตและส่งออกทุเรียนภูเขาไฟ กลุ่มแรกจะผลิตแบบล้ง คือเน้นปริมาณเป็นหลัก ส่วนอีกกลุ่มเป็นการผลิตเพื่อสร้างแบรนด์ คือเน้นการทำทุเรียนให้อร่อยและมีคุณภาพ โดยไม่เน้นปริมาณ แม้จะเป็นสวนที่ติดกัน มีดินภูเขาไฟเป็นองค์ประกอบที่ดีเหมือนกัน หากมีกรรมวิธีการดูแลที่แตกต่างย่อมส่งผลต่อรสชาติเช่นกัน ทางเราคัดสรรจากกลุ่มที่เน้นสร้างแบรนด์ เพราะเขามีกรรมวิธีที่ตอบโจทย์เรามากกว่า ทั้งยังเป็นออร์แกนิคด้วย เราตั้งใจคัดสวน คัดต้น และคัดคนตัด ซึ่งคนตัดจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในการดูลูกทุเรียน ดูลักษณะของหนามว่ามีความสุกหรือยัง หากมีความสุกไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อรสชาติได้ เพราะทุเรียนภูเขาไฟเขาไม่เหมือนใคร ขนาดลูกที่ว่าสุกแล้วก็ไม่ส่งกลิ่นออกมา วิธีเช็กคือการกรีดปลือกเป็นสามเหลี่ยมด้านบนแล้วจิ้มดูเท่านั้น”
หวานกว่าทุเรียนก็คุณกัญจณ์กับคุณเอ๊ะนี่แหละค่า
สนับสนุนเกษตรกร ส่งออกทุเรียนภูเขาไฟ
● ● ●
“จะเห็นได้ว่าเรามีคอนเซ็ปต์เพื่อชาวสวน เนื่องจากเราทำร้านอาหาร เจอสินค้าเกษตรมาเยอะ แน่นอนว่าเราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ของดีจะกลายเป็นของไม่มีคุณภาพเมื่อเข้าสู่ระบบทุนนิยม หมายความว่าถ้าเกิดเราไม่เข้าไปทำอะไรสักอย่าง คุณภาพของสินค้าก็จะหายไป เกษตรกรเขาไม่เข้าใจเรื่องของการค้าขายเชิงพาณิชย์ เมื่อมีระบบล้งแบบซื้อส่งเหมาตัดเข้ามา พ่อค้าคนกลางจะเข้ามากำหนดราคา โดยทุเรียนที่มีรูปลักษณ์ดีและมีพูสวยจะราคาดีกว่า ส่งผลให้เกษตรกรหันไปผลิตลูกทุเรียนให้สวย มากกว่าที่จะผลิตทุเรียนที่อร่อยและมีคุณภาพ เราจะเห็นว่าสมัยนี้ทำไมทุเรียนถึงพูสวย มันคือการใส่ปุ๋ยให้ได้น้ำหนัก อัดน้ำเยอะ ๆ ก่อนตัด ลูกทุกเรียนก็จะฉ่ำ จากตอนแรกคิดว่าทำอย่างไรให้อร่อยที่สุด กลับกลายเป็นว่าจะทำอย่างไรให้ได้น้ำหนักมากที่สุดแทน
การที่พี่เข้าไปสนับสนุนคือการส่งเสริมและอนุรักษ์วิถีเกษตรแบบดั้งเดิมเอาไว้ ไม่เข้าไปกดราคา ทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้งยังมีทุนไว้ทำต่อปีหน้า เป็นการส่งเสริมเกษตรกรแบบยั่งยืน และเป็นการส่งมอบความสุขในทุกมิติให้แก่ลูกค้าของเราด้วย”คุณเอ๊ะกล่าว
สนับสนุนเกษตรกรทุกมิติ อนุรักษ์วิถีเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมเอาไว้
ส่งตรงจากสวน ชวนชิมทุเรียนภูเขาไฟ
จากร้านส้มตำคุณกัญจณ์
● ● ●
“ในปีนี้เราออกขายช้าหน่อยเพราะฝนตกตลอด เราจึงไม่รีบตัดเพราะมันจะส่งผลต่อรสชาติอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้เราพร้อมแล้ว เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ by คู่ขวัญ จะจัดราว 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม แม้ว่าทุเรียนของเราจะลูกไม่สวย ดำบ้าง สุกไม่ทั่วถึงบ้าง แต่มันคือธรรมชาติที่ปลอดสารพิษ เราไม่ป้ายยาที่ขั้วของลูกทุเรียนเพื่อเร่งความสุก เพราะตามธรรมชาติของทุเรียนมีการสุกไล่พู ลูกค้าบางรายอาจไม่เข้าใจว่าพูนี้สุกพอดีและอร่อย แต่อีกพูกลับแข็งไป เราก็รับผิดชอบด้วยการให้ลูกค้านำมาเปลี่ยนได้เลย เรายินดีบริการเต็มที่”
“เนื้อทุเรียนมีให้เลือกหลายแบบตามความต้องการ แต่ที่เราแนะนำคือความสุกแบบพอดี เพราะจะได้รับรสทั้งหวานทั้งมันของทุเรียนภูเขาไฟได้ดีที่สุด ในส่วนของเรื่องการส่งออกเราคงไม่ทำ เพราะเราอยากส่งเสริมให้คนในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกรุงเทพฯ ได้ทานก่อน อยากให้เขารู้จักทุเรียนภูเขาไฟของแท้ว่าเป็นอย่างไร” คุณเอ๊ะกล่าวปิดท้าย
มาจนถึงตอนนี้ เหล่าทุเรียน Lover จะอดใจไหวได้อย่างไร เทศกาลทุเรียนภูเขาไฟเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ อย่าพลาดเด็ดขาด! ติดตามความเคลื่อนไหวและสั่งซื้อทุเรียนภูเขาไฟได้ที่ www.facebook.com/DurianKanKaEh หรือทางเพจร้านส้มตำคุณกัญจณ์ www.facebook.com/PageSomtumKhunkan/ ได้เลย!