Kind Eyes

Porco Rosso – “หมูใจกล้า” ผู้ปฏิเสธอำนาจและระบบราชการที่ไร้ความหมาย

ในยุคหนึ่งที่อิตาลีอยู่ภายใต้ระบอบฟาสซิสต์ หลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ใน ค.ศ. 1929 มีหมูใจกล้าที่ต่อต้านอำนาจเผด็จการ ปฏิเสธเข้าเป็นทหารในระบอบฟาสซิสต์ที่กำลังรุ่งเรือง เขายอมเป็นหมูอาชญากรที่ถูกขู่เอาชีวิตตลอดไปดีกว่าเป็นพวกฟาสซิสต์

ช่วงเวลาสั้น ๆ ของฉากหนึ่งในแอนิเมชันเรื่อง Porco Rosso ของฮายาโอะ มิยาซากิ ณ โรงหนังที่เมืองมิลาน “พอร์โค” อดีตวีรบุรุษสงครามที่ถูกสาปให้กลายเป็นหมู ได้พบกับ “นาวาอากาศแฟรารี” เพื่อนเก่าของเขา และได้สนทนาลับ ๆ กัน แฟรารีแจ้งพอร์โคให้รู้ว่า ตำรวจอิตาเลียนกำลังไล่ล่าพอร์โคอยู่ มีหมายจับข้อหากบฏ หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ครอบครองรูปโป๊ และเป็นหมูขี้เกียจ ถ้าพอร์โคยอมกลับเข้ามารับราชการเพื่อเข้าร่วมรบกับกองทัพอากาศอิตาลี ทางการจะไม่เอาผิดพอร์โคอีกต่อไป แต่พอร์โคกลับตอบแบบไม่แยแสว่า

“ให้เป็นหมูดีกว่าเป็นพวกฟาสซิสต์”

Porco Rosso (1992) คือหนึ่งในแอนิเมชันของ Studio Ghibli ที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวของญี่ปุ่นเลย แต่กลับดำเนินเรื่องในอิตาลี และตัวละครเกือบทั้งหมดก็อยู่ในอิตาลี จากความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการให้ Porco Rosso เป็นแอนิเมชันขนาดสั้นสำหรับเด็ก กลับกลายเป็นแอนิเมชันความยาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่อาจเรียกว่าเหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก เพราะไม่มีภาพแฟนตาซีแบบในแอนิเมชันหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา และยังมีบทสนทนาแบบผู้ใหญ่ที่สอดแทรกประเด็นทางการเมืองไว้ด้วย

เมื่อครั้งที่กลับมาพบกัน นาวาอากาศแฟรารี ได้ชักชวนให้พอร์โคกลับเข้าร่วมกองทัพอากาศอีกครั้ง และยังขู่อีกว่า “พวกผู้กล้าที่ไม่มีใครหนุนหลังตายไปหมดแล้ว ถ้าอยากบินต้องมีรัฐบาลหรือคนจ้างบินเท่านั้น” แต่พอร์โคก็ยังยืนยันคำเดิมว่า จะไม่กลับเข้าไปอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการ แล้วตอบตัดบทไปว่า “ฉันบินเพื่อตัวเองเท่านั้น”

Porco Rosso ยังคงความเป็นแอนิเมชันสไตล์ Studio Ghibli เติมเต็มความฝัน ให้ความสุขกับผู้ชม และไม่ได้มีโครงเรื่องที่ซับซ้อนมากนัก แม้จะแตะเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้กับระบอบฟาสซิสต์เพียงผิวเผิน แต่กลับฉายภาพการต่อต้านอำนาจเผด็จการ ผ่านภาพการใช้ชีวิตของพอร์โคอย่างชัดเจน พอร์โคอดีตวีรบุรุษสงครามที่ถูกสาปให้กลายเป็นหมู ยังคงรักการบินและบินอยู่เหนือน่านน้ำทะเลอะเดรียติก (Adriatic Sea) ทุกวัน อีกทั้งยังคงก่นด่ารัฐบาลฟาสซิสต์ที่ต้องการควบคุมเขาเสมอ

ต่อให้มีโอกาสกลับคืนร่างเดิมสักกี่ครั้ง พอร์โคก็ยังคงเลือกที่จะเป็นหมู เขายังคงยึดมั่นว่า “คนดีได้ตายไปหมดแล้ว” ความสุขของพอร์โคคือการที่กฎของมนุษยชาติและสงครามที่มนุษย์ก่อไม่มีผลบังคับใช้กับเขาอีกต่อไป เพราะเขาเป็น “หมู” ไม่ใช่มนุษย์ โลกของพอร์โคสร้างขึ้นจากทะเลและท้องฟ้า มันถูกควบคุมโดยกระแสน้ำ ลม และก้อนเมฆ การควบคุมจากมนุษย์ไม่มีความหมายที่นี่

มิยาซากิ ใช้การบินเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิเสธความน่ากลัวของสงคราม แอนิเมชันเรื่องนี้สร้างมาเพื่อทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังบินอยู่อย่างอิสระ ปราศจากการควบคุมของเผด็จการ ทุก ๆ การเคลื่อนไหวของนกเหล็กสีแดง บินโฉบหมุนวนไปมา พุ่งทะยานผ่านก้อนเมฆ ได้พาเราล่องลอยเหนือทะเลอะเดรียติก ทุก ๆ การเคลื่อนผ่านของสายลม ธรรมชาติที่รายล้อม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คนที่ได้เห็นการร่ายรำของเครื่องบินสีแดงบนท้องฟ้า นี่ต่างหากคือความสุข 

หากใครสงสัยว่า เพราะเหตุใด พอร์โคผู้เป็นวีรบุรุษสงครามถึงถูกสาปให้กลายเป็นหมู ไม่มีคำตอบที่ตรงไปตรงมาจากผู้สร้าง หรือแม้แต่ในแอนิเมชันก็ไม่ได้เฉลยไว้อย่างชัดเจน นี่อาจเป็นคำถามปลายเปิดที่รอคำตอบในหลายแง่มุมจากผู้ชม 

พอร์โคในร่างหมู อาจสื่อถึงชายวัยกลางคนที่เหนื่อยล้าและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้เหมือนที่เคยฝันไว้ หรือบางทีผู้สร้างอาจต้องการชี้ให้เห็นว่า พวกเผด็จการที่บ้าอำนาจไม่ได้ดีไปกว่าหมูตัวหนึ่งเลย สู้ยอมเป็นหมูยังจะดีเสียกว่าเป็นพวกเดียวกับฟาสซิสต์


เรื่องโดย