คอมฟอร์ทฟู้ดแบบกู๊ด ๆ โดยไม่ทำร้ายสัตว์
●○
อย่างที่ทราบกันดีว่า “ไข่” เป็นหนึ่งในแหล่งโปรตีนชั้นดี แถมยังหากินง่าย และอาจจะเป็นหนึ่งในคอมฟอร์ทฟู้ดของใครหลายคน ไม่ว่าจะนำมาทำเมนูอะไรก็อร่อย แม้ว่าการทานไข่มากเกินไป อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจและมีคอเลสเตอรอลสะสมในร่างกายระดับสูงก็ตาม แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และงานวิจัยอีกหลายแห่งทั่วโลกที่ได้ทำการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างการรับประทานไข่และการเกิดโรคหัวใจเผยว่า ส่วนที่ต้องระมัดระวังในการทานไข่เป็นพิเศษคือ ไข่แดง เนื่องจากไข่แดงจะมีสารอาหารทั้งโปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ และวิตามินหลายชนิด ขณะที่ไข่ขาวจะประกอบด้วยโปรตีนเน้น ๆ ดังนั้นการทานอะไรที่มากเกินไปย่อมส่งผลต่อสุขภาพได้
ด้วยเหตุนี้หลายประเทศทั่วโลกจึงเริ่มขยับตัวทำอะไรบางอย่าง เพื่อไม่ให้สุขภาพของเพื่อนมนุษย์ทรุดโทรมไปมากกว่าเก่า และยิ่งในปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา หลายประเทศต่างต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสพร้อมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้คนจึงเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลตัวเองมากขึ้น และหนึ่งในกระแสอาหารที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่นั่นคือ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชหรือ Plant-based Food ไม่เฉพาะแต่ในต่างประเทศเท่านั้นที่ตื่นตัว ในประเทศไทยเองก็มีบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งลุกขึ้นมาจับธุรกิจนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น More Meat, Meat Avatar และ Let’s Plant Meat
เรียกได้ว่าปี ค.ศ. 2020 เป็นปีที่มีคนบัญญัติให้เป็นปีสำหรับชาววีแกนเลยจริง ๆ แต่หากมองว่ากระแสผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว การ “สร้าง” ไข่ขึ้นมาคงเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน แม้ไข่จะเป็นอะไรที่หาได้ง่าย ไปเดินตลาดที่ไหนอย่างน้อยก็ต้องมีร้านขายไข่ตั้งแผงอยู่สักร้าน แม้แต่ในร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ก็ยังมีไข่ไก่วางแผงให้เราเลือกซื้อกันอย่างสะดวก เรียกได้ว่า ตลาดไข่ไก่มาแรงจริง ๆ
แต่จากผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอเวียโด ประเทศสเปน เผยว่า อุตสาหกรรมปศุสัตว์อย่างการเลี้ยงไก่ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่ผู้บริโภคคาดคิด พร้อมทั้งยกตัวอย่างผลกระทบที่อุตสาหกรรมประเภทนี้สร้างผลกระทบมากที่สุดคือ สิ่งแวดล้อม เนื่องจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชั้นบรรยากาศ และในการทำปศุสัตว์จำเป็นต้องทำลายหน้าดิน รวมถึงใช้สารเคมีบางส่วนเพื่อให้ผลผลิตที่รวดเร็ว เพราะการเลี้ยงไก่ในระบบอุตสาหกรรมจะเน้นปริมาณของไข่มากกว่าสุขลักษณะที่ดี
ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำใจต้องเลี้ยงไก่จำนวนมากในพื้นที่จำกัด แน่นอนว่าไก่ในฟาร์มส่วนใหญ่มีพื้นที่น้อยมากในการขยับร่างกาย แม้แต่ปีกของพวกมันก็ไม่สามารถที่จะสยายออกมาผ่อนคลายได้เลย อีกทั้งยังมีการนำยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการเร่งโตมาฉีดในสัตว์ปีกเหล่านี้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ผู้เลี้ยงลงมือลงแรงลงไปก็จะย้อนกลับมาทำลายสุขภาพมนุษย์ด้วยกันเอง
Photo Credit: omelet in a pan/ eggfreepik
ไข่มังฯ ดีต่อใจ ไม่ต้องนำไก่มาขังกรง
●○
นอกจากไข่จะเป็นอาหารที่คนไทยนิยมรับประทานแล้ว ต้องบอกเลยว่า ชาวไข่เลิฟเวอร์ได้กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลกและเป็นหนึ่งในอาหารที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด เพราะไข่สามารถนำมาประกอบอาหารง่าย ๆ ได้หลากหลายเมนู อย่างในอเมริกาการทานแพนเค้กเพียงอย่างเดียว ก็ดูจะเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ไม่น่าอภิรมย์นัก ถ้าอยากเพิ่มสีสันให้มื้อเช้าสักหน่อย เพียงแค่เพิ่มไข่คนเข้าไปในมื้ออาหาร อเมริกันชนหลายคนคงแฮปปี้กันเป็นแถว ๆ
ในฝรั่งเศสเองก็มีการนำไข่มาปรุงเป็นเมนูสุดหรูอย่างไข่เจียวล็อบสเตอร์ เสกไข่ธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นอาหารขึ้นภัตตาคาร ส่วนในประเทศไทย แน่นอนว่าเราขึ้นชื่อเรื่องอาหาร เมนูไข่ ๆ จึงกลายเป็นสิ่งเบสิกที่สุดก็ว่าได้ และหนึ่งในเมนูขึ้นชื่อระดับโลกอย่างผัดไทยเองก็มีไข่เป็นหนึ่งในส่วนผสมเช่นกัน
จากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations – FAO) ระบุว่า ประชากรทั่วโลกรับประทานไข่ไก่ 145 ฟองต่อหัวต่อปี และด้วยพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลายบริษัทเริ่มจับเทรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชมากขึ้น ซึ่งนักวิจัยต่างประเทศเริ่มมองว่า ไหน ๆ ก็มีเนื้อจากพืชแล้ว ทำไมไม่ “สร้าง” ไข่จากพืชแทนบ้าง ซึ่งผู้บริโภคเองก็มีแนวโน้มที่จะหันมาทานอาหารทางเลือกกันมากขึ้นด้วย
ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ต้องช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตด้วย
●○
ด้วยเหตุนี้ Kartik Dixit และ Shraddha Bhansali ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพจากแดนภารตะ ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกจึงได้คิดค้นนวัตกรรมอาหารรูปใหม่เพื่อให้คนรักสุขภาพที่อยาก Enjoy Eating ในการกินไข่โดยไม่รู้สึกผิด และไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายขยับสูงขึ้น
หลักการของ EVO Foods คือ การพัฒนาสูตรอาหารโดยใช้โปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว และมอบพื้นที่สีเขียวแก่เพื่อนร่วมโลก ผ่านการสร้างไข่ที่มีราคาพอ ๆ กับไข่ออร์แกนิกที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งยังสามารถเก็บไข่ไว้ในตู้เย็นได้นานถึงหกเดือน นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีสุขภาพแข็งแรงและยั่งยืน เนื่องจากไข่จาก Evo Foods เป็นไข่จากพืชล้วน ๆ ไม่มีคอเลสเตอรอลและไม่มีสารเคมีจากยาปฏิชีวนะ และยังลดอัตราการทารุณกรรมสัตว์อีกด้วย
Photo Credit: EVO FOOD
“อินเดียมีความหลากหลายทางชีวภาพของพืชเป็นอย่างมาก ซึ่งเราอยากจะสำรวจสิ่งเหล่านี้และใช้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด โดยเฉพาะ ‘โปรตีน’ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะนี้คือโปรตีนที่มีราคาถูกและคุณภาพสูง เราอยากจะใช้ทรัพยากรที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้ให้คุ้มค่า และส่งต่อสิ่งดี ๆ เหล่านี้สู่สังคม” Shraddha Bhansali กล่าว
ขณะที่ Kartik Dixit ได้กล่าวเสริมว่า “แม้ว่าไข่ที่เราสร้างขึ้นมาจะสามารถเก็บอยู่ในตู้เย็นได้นานหกเดือน แต่เราก็ได้วางแผนพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ไม่ใช่แค่เพียงในเรื่องของอายุการจัดเก็บ แต่ยังรวมถึงเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส ซึ่งเรายังมองไปถึงตลาดในเอเชียหรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ยังขาดแคลนไฟฟ้าใช้ เราอยากจะส่งออกไข่ที่ช่วยปิดช่องว่างทางเศรษฐกิจนี้ลง เพราะหากเราทำได้ผู้คนนับล้านก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี แม้จะไม่มีตู้เย็นใช้ก็ตาม”
โดยทาง EVO Foods จะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะวางขายที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกในเดือนเมษายน ค.ศ. 2021
ที่มา
- From vegan meat to seafood, now comes the vegan egg. www.lifestyleasia.com/food-drink/vegan-egg
- India’s Evo Foods To Debut Plant-Based Liquid Egg This Year, Plans U.S. Expansion. www.greenqueen.com.hk/indias-evo-foods
- Liquid gold: India’s EVO Foods to launch plant-based liquid egg this year and eyes US expansion. www.foodnavigator-asia.com/Article/2020