Kind Global

เปิดปรากฏการณ์ดื่ม “ชาไข่มุก” กันทั่วเมือง! ธุรกิจหวาน ๆ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด


เครื่องดื่มรสชาติหอมหวานที่ใส่แก้วมาพร้อมกับเจ้าก้อนแป้งเม็ดสีดำ ๆ กลม ๆ อันหนึบหนับนี้ ทำไมถึงเป็นที่นิยมนักนะ?!

“ชาไข่มุก” เครื่องดื่มยอดนิยมแห่งยุคสมัย ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนในย่านการค้าจะต้องมีจำนวนมากกว่าหนึ่งร้านอย่างแน่นอน เมื่อไลฟ์สไตล์การกินดื่มของผู้คนเริ่มแปรเปลี่ยน เครื่องดื่มหวาน ๆ แบบพกพาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีการบริโภค ตลาดชาไข่มุกจึงเติบโตอย่างรวดเร็วโดยความนิยมไม่ได้มีเฉพาะในประเทศแถบเอเชียเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายข้ามทวีปไปยังสหรัฐอเมริกาอีกด้วย


ปีเกิด 1988 ประเทศไต้หวัน
● ● ●

เนื่องจากแต่เดิมนั้น ไต้หวัน มีการปลูกชามาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี  โดยเฉพาะชาอู่หลงอาลีซานซึ่งเป็นของฝากที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมายาวนาน อาจเรียกได้ว่าประวัติศาสตร์เหล่านั้นเป็นต้นตอก่อนที่ต่อมาชาไข่มุกจึงได้ถือกำเนิดขึ้น ตามข้อมูลแรกกล่าวไว้ว่าชาไข่มุกเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1988 จากร้านน้ำชาที่ชื่อ “ชุนฉุ่ยถัง” (Chun Shui Tang Teahouse) ในเมืองไถจง

โดยมีเรื่องราวเล่าว่าระหว่างการประชุมของร้านชา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ชื่อ หลินชิ่วฮุย เกิดนึกสนุกขึ้นมา จึงได้เทขนมหวานชิ้นเล็ก ๆ (หรือที่เรียกว่า เฟินหยวน (Fen Yuan) ซึ่งเป็นขนมพื้นเมืองของไต้หวันที่ทำจากมันสำปะหลัง) ลงไปในน้ำชา ทุกคนในห้องประชุมได้ชิมและเห็นว่าน่าสนใจจึงทำออกมาขาย ปรากฏว่ายอดขายดีมาก สามารถทำลายสถิติเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ทางร้านจึงทำเมนู “ชาไข่มุก” ขายตั้งแต่นั้นมา และได้กลายเป็นเมนูยอดฮิตของทางร้าน จนผ่านมากว่า 20 ปี รายได้ของทางร้านกว่า 80% ก็มาจากเจ้าชานมไข่มุกที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญนี่เอง


ส่วนอีกหนึ่งที่มาเล่าว่า ชาไข่มุกน่าจะมีที่มาจากร้านน้ำชา หานหลิน ที่เมืองไถหนาน ในช่วงปี 1990 โดยร้านนี้มีเจ้าของร้านชื่อ ถัวซ่งเหอ เขาใส่เม็ดสาคูสีขาวลงไปในชาทำให้เหมือนไข่มุก หลังจากนั้นไม่นานร้านหานหลินก็เปลี่ยนสีสาคูจากสีขาวเป็นสีดำ นำมาใส่ในน้ำชา ทำให้เครื่องดื่มนี้มีหน้าตาเหมือนชาไข่มุกที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดของที่มาของไข่มุก แต่นับตั้งแต่นั้นในช่วงยุค 1990-2000 ชาไข่มุกก็ได้รับความนิยมและแพร่หลายไปยังประเทศอื่น

เมื่อวัฒนธรรมชานมไข่มุกเริ่มแพร่ขยายทั่วโลก
● ● ●

กระแสธุรกิจชาไข่มุกในประเทศต้นกำเนิดอย่างไต้หวันนั้น สำหรับคนที่เคยไปจะรู้เลยว่านี่แหละคือสวรรค์ของคนรักชาไข่มุก เพราะมีร้านขายหลากหลายแบรนด์เรียงรายอยู่เต็มไปหมด ทั้งในห้างสรรพสินค้า หรือร้าน Standalone ในย่านชอปปิง ซึ่งภาพรวมตอนนี้ในเมืองหลักของไต้หวันก็มีร้านขายชาไข่มุกทั่วทั้งเกาะมากกว่า 450 ร้านแล้ว

ทั้งนี้ประเทศแรกที่รับวัฒนธรรมเมนูชาไข่มุกไปก็คือ ญี่ปุ่น โดยในปี 2013 ร้านชาไข่มุกที่ก่อตั้งนอกประเทศครั้งแรกคือ ร้าน Chun Shui Tang ย่านไดคังยามะ (Daikanyama) ซึ่งเป็นย่านชอปปิงสุดหรูในกรุงโตเกียว


จนตอนนี้มีรายงานระบุว่า ในปี 2019 เฉพาะในกรุงโตเกียวมีร้านขายชาไข่มุกกว่า 10 ร้านด้วยกัน โดยยังไม่นับรวมร้านชานมไข่มุกอื่น ๆ ที่เป็นแบรนด์ของญี่ปุ่นผุดขึ้นตามมาตั้งแต่ปี 2015

จากนั้นธุรกิจชาไข่มุกก็เริ่มขยับขยายร้านไปเปิดในจีน เกาหลีใต้ และในปี 2018 ร้าน Chun Shui Tang ได้เปิดสาขาแรกขึ้นที่ฮ่องกง ขณะเดียวกันทางด้านสหรัฐอเมริกา รัฐแคลิฟอร์เนียก็มีร้านชาไข่มุกเติบโตขึ้นจำนวนมากเช่นเดียวกัน จนในปี 2018 พบว่า มีร้านเครื่องดื่มชนิดนี้เกือบ 200 ร้านแล้ว สำหรับร้านแฟรนไชส์ชาไข่มุกเจ้าแรกที่บุกตลาดสหรัฐอเมริกา ก็คือ Chatime


ส่วนในประเทศไทยนั้น จริง ๆ ชานมไข่มุกได้เข้ามาตีตลาดได้นับ 20 ปีแล้ว ในช่วงปี 1999-2001 และกลับมาบูมอีกครั้งในช่วงปี 2011 โดยกระแสชาไข่มุกที่กลับมานั้น ทำให้มีผู้นำเข้าแบรนด์จากไต้หวัน หรือเปิดร้านใหม่ของตัวเองเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งร้านอาหารบางแห่งก็เพิ่มเมนูนี้เข้าไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นยุคของ “ชานมไข่มุก” อย่างแท้จริง ตัวอย่างแบรนด์ชาไข่มุกในไทยที่หลายคนรู้จัก ได้แก่ Mr. Shake, Ochaya, KOI The, KAMU, FUKU Matcha, Brown Cafe, ATM Tea Bar, Dakasi, CoCo และ The Alley เป็นต้น

ส่องตลาดชาไข่มุกอาเซียน และทั่วโลก
● ● ●

หากจะบอกว่าตลาดชาไข่มุกเป็น Red Ocean ก็ดูจะไม่เสียหายอะไร เพราะว่าวงการนี้มีการแข่งขันด้านราคากันอย่างดุเดือด ทั้งแบรนด์เก่าที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน และแบรนด์ใหม่ที่มองเห็นโอกาสก็ตบเท้าเข้ามาท้าดวลกันอย่างคึกคัก ทั้งแบรนด์ต่างประเทศ และแบรนด์ไทย

สภาพัฒนาการค้าระหว่างประเทศของไต้หวัน คาดการณ์ว่า ธุรกิจเกี่ยวกับชานมไข่มุกทำรายได้ให้กับประเทศในปี 2019 มูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนตลาดชาไข่มุกทั่วโลก มีมูลค่าอยู่ที่ 62,500 ล้านบาท และคาดการณ์ว่า ภายในปี 2023 มูลค่าตลาดจะเติบโตไปอยู่ที่ 103,000 ล้านบาท และสำหรับประเทศไทยตลาดชานมไข่มุก มีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ทางด้านตลาดอาเซียนจากข้อมูลของ GrabFood สำรวจพบว่า ในปี 2018 ตลาดเครื่องดื่มชาไข่มุกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตถึง 3,000 เปอร์เซ็นต์ จาก 1,500 แบรนด์ และหน้าร้านที่จำหน่ายกว่า 4,000 สาขา

โดยชาวไทยบริโภคชานมไข่มุกมากสุด เฉลี่ยคนละ 6 แก้วต่อเดือน รองลงมาคือ ฟิลิปปินส์ จำนวน 5 แก้วต่อเดือน ตามด้วยมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งเฉลี่ยบริโภคจำนวน  3 แก้วต่อเดือน


ซึ่งมีการประเมินไว้ว่า ในระหว่างปี 2018-2025 อัตราการเติบโตของตลาดนี้จะอยู่ที่ 8.5% ซึ่งประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นตลาดหลักที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง


ที่มา

  • ตลาดเดือด! เมื่อ “ชาไข่มุก” ไม่ใช่แค่ปรากฎการณ์ฟีเวอร์ แต่เป็นไลฟ์สไตล์ไปแล้ว. https://brandinside.asia/bubble-milk-tea-phenomenon
  • ธุรกิจชานมไข่มุกมีแนวโน้มเติบโต “ลดลง” แต่คนไทยยังครองแชมป์ดื่มมากสุดในอาเซียน. www.pptvhd36.com
  • ส่องตลาดชานมไข่มุก ทำไมถึงไปได้ทั่วโลก. www.thaismescenter.com
  • ย้อนประวัติศาสตร์ ‘ชานมไข่มุก’ ก่อนจะดังเป็นพลุแตก จนกลายเป็นเครื่องดื่มแห่งชีวิต. www.marketingoops.com/data/a-brief-history-of-pearl-milk-tea

เรื่องโดย