Kind Sci

6 เรื่องหยุมหยิมของผู้หญิงที่วิทยาศาสตร์บอกได้


เคยสงสัยไหม? ทำไมเรื่องบางเรื่องมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่เข้าใจ ในขณะเดียวกันก็มีแต่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่เป็น! วันนี้ KiNd จะมาไขปัญหาเรื่องหยุมหยิมของผู้หญิงที่วิทยาศาสตร์บอกได้ 

ผู้หญิง = ของหวาน
. . . .

เริ่มต้นกันที่ “ความหวาน” ว่ากันว่าผู้หญิงมักเอนจอยกับของหวานมากกว่าผู้ชาย จริงหรือไม่? ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว เด็กมีความไวต่อรสหวานน้อยกว่าผู้ใหญ่ ส่วนหนุ่มสาวมีความไวต่อรสหวานน้อยกว่าผู้สูงอายุ ทำให้เด็ก ๆ ที่มีอายุ 1-10 ขวบ ชอบอาหารรสหวานจัด ซึ่งความชอบนี้จะค่อย ๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อโตขึ้น ผู้ชายจะมีความชอบรสหวานลดลง ขณะที่ผู้หญิงจะชอบความหวานเพิ่มขึ้น แล้วจึงค่อยลดลงเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เพราะผู้หญิงมีต่อมรับรสฝังอยู่ที่ลิ้น 35% ในขณะที่ผู้ชายมีต่อมนี้เพียง 15% เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นผู้หญิงเอนจอยกับขนมหวานมากกว่าผู้ชาย



นอกจากนี้ หากคนเรามีความเครียดมากขึ้นจะส่งผลให้ฮอร์โมนความอิ่ม (Leptin) และฮอร์โมนความอยากอาหาร (Ghrelin) เสียสมดุล ส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ไขมัน น้ำตาล โซเดียม และแคลอรีสูง โดยผลวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Physiology and Behavior พบว่า หากมีความเครียดผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะอยากกินของขบเคี้ยว เช่น คุกกี้ บราวนี่ และช็อกโกแลต ในขณะที่ผู้ชายจะโหยหาอาหารที่มีน้ำตาลน้อยกว่า เช่น พิซซ่าและสเต็ก


เก่งจังแยกเฉดสีได้
. . . .

นักวิทยาศาสตร์ยืนยันมานานแล้วว่า ต่างเพศมองเห็นสีต่างกัน ซึ่งเกิดจากข้อได้เปรียบทางร่างกาย ผู้หญิงจะมีดวงตาและประสาทการมองเห็นที่กว้างกว่า มีความไวต่อสีสัน โดยจะมองเห็นเฉดสีเหลือง ส้ม แดง ชมพู ชัดกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า นอกจากนี้ ผู้หญิงยังสามารถแยกเฉดสีด้วยตาเปล่าได้ถึง 256 เฉดสี ขณะที่ผู้ชายเห็นแค่ประมาณ 70 เฉดสี ทั้งนี้ ยังมีงานวิจัยด้านภาษาศาสตร์ที่บอกว่าผู้หญิงมีการใช้คำศัพท์ในการอธิบายสีมากกว่าผู้ชาย ทำให้แยกเฉดสีได้ดีกว่า รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากวิวัฒนาการในการดำรงชีวิต เนื่องจากในสมัยโบราณ ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเลือกเก็บผลไม้ การสังเกตความแตกต่างของสีจะช่วยแยกแยะผลไม้บางชนิดที่มีลักษณะคล้ายกัน หรือแยกระหว่างผลที่สุกแล้วกับที่ยังดิบอยู่ได้ดีกว่านั่นเอง

ใครเป็นบ้าง? มือและเท้าเย็นง่ายมาก
 . . . .

โดยทั่วไปแล้ว คนปกติไม่ควรจะเกิดอาการมือเท้าเย็น เว้นแต่ว่าจะความเครียด ความตื่นเต้นที่เกิดในบางครั้ง ร่างกายจะมีปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่ออารมณ์  ทำให้เกิดอาการมือเท้าเย็นได้ แต่ที่น่าเป็นกังวลคือ ยุคสมัยนี้มีคนเป็นโรคมือเท้าเย็นจำนวนมาก ซึ่งทางการแพทย์แผนจีนระบุว่า ส่วนใหญ่ผู้หญิงเป็นโรคมือเท้าเย็นมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากอัตราการเผาผลาญที่ส่งผลให้การผลิตความร้อนในร่างกายระหว่างชายและหญิงนั้นไม่เหมือนกัน โดยผู้ชายจะมีอัตราการเผาผลาญที่ดีกว่า ส่งผลให้ร่างกายสามารถสร้างความร้อนได้ดีกว่า จึงรู้สึกร้อนได้ง่ายกว่าผู้หญิง ขณะที่ผู้หญิงมีอัตราการเผาผลาญที่ต่ำกว่าผู้ชาย ทำให้รู้สึกหนาวง่ายและต้องการเครื่องกันหนาวมากกว่า

 

ไม่ได้สำออย แต่เจ็บปวดง่ายจริง ๆ
 . . . . 

เคยเบื่อตัวเองที่อ่อนแอไหม? แค่ยกของนิดหน่อยก็ปวดแขนแล้ว ทั้งที่จริงก็ไม่ได้อยากเอาเปรียบใคร โดยทางการแพทย์ระบุว่า ผู้หญิงจะมีความรู้สึกเจ็บปวดต่อกล้ามเนื้อ ข้อต่อ อวัยวะ และผิวหนัง มากกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีเส้นประสาทรับความรู้สึกมากกว่า ผู้หญิงมีเส้นประสาทบนผิวหน้าถึง 34 เส้นต่อตารางเซนติเมตร ในขณะที่ผู้ชายมีเพียง 17 เส้นต่อตารางเซนติเมตร  เท่านั้น ยิ่งกว่านั้นผู้หญิงยังรู้สึกเจ็บปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายง่าย และในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าด้วย อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดนั้นเกิดจากหลายสาเหตุนอกเหนือจากการบาดเจ็บทางร่างกาย แต่อาจเกิดจากการป่วยไข้ หรือมีสาเหตุมาจากสภาวะจิต เช่น ความโศกเศร้า หรือสาเหตุที่ไม่สามารถชี้ชัดได้อย่างชัดเจน

เมื่อการยืด ๆ หยุ่น ๆ เป็นเรื่องที่ต้องระวัง
 . . . .

หากพูดถึง “โยคะ” หลายคนจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเล่น เนื่องด้วยร่างกายที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้เคลื่อนไหวได้หลากหลายกว่า แต่ข้อเสียของความยืดหยุ่นนี้ ส่งผลให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อต่อมากกว่าผู้ชาย และมักจะเกิดอาการเอ็นอักเสบได้ง่าย ซึ่งอาการนี้จะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า และหากปล่อยปละละเลยอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคที่ยากจะรักษา เรียกได้ว่า ความยืดหยุ่นง่ายของร่างกายก็มีทั้งผลดีผลเสียเลยก็ว่าได้

ไม่ได้คิดไปเอง ที่ใครหลายคนบอกเราแก่!
 . . . .

เคยอิจฉาผู้ชายกันบ้างไหม ที่อาจจะดูแก่ช้ากว่าผู้หญิง นั่นเป็นเพราะผู้หญิงมีคอลลาเจนบนผิวหน้าน้อยกว่าผู้ชาย ซึ่งโดยเฉลี่ยผิวผู้ชายมีความหนากว่าผิวผู้หญิงประมาณร้อยละ 20 และมีปริมาณคอลลาเจนมากกว่า จึงแลดูเต่งตึงมากกว่าผิวผู้หญิง ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ที่เป็นฮอร์โมนสำคัญของเพศชาย ทำให้ลักษณะโครงสร้างผิวของผู้ชายแตกต่างจากผิวผู้หญิงนั่นเอง

นี่เป็นเพียง 6 เรื่องเล็ก ๆ ของผู้หญิงที่หากไม่ใส่ใจอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ซึ่งความแตกต่างเช่นนี้ยังมีอีกมากมาย ไม่ใช่เราแค่คิดไปเอง แต่เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกได้ด้วย



อ้างอิง

  • Scientific Facts About Differences Between Men and Women. Factinate
  • Where Men See White, Women See Ecru. Smithsonian Mag
  • Why Women Crave Sugary Foods More Than Men. Cathe

เรื่องโดย

ภาพโดย