Kind Creatures

“ไทยหลังอาน” นักล่าสายพันธุ์ไทย

ในแวดวงคนเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยจะทราบดีว่า “ไทยหลังอาน” คือสุนัขพันธุ์พื้นเมืองเก่าแก่ของประเทศไทย ซึ่งถูกจัดให้เป็น “สุนัขประจำชาติไทย” ที่สามารถช่วยเตือนภัย ดูแลทรัพย์สิน และทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามช่วยล่าสัตว์ของคนไทยมาแต่โบราณกาล 

KiNd ชวนอ่านเรื่องราวของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน แม้พวกเขาจะมีหน้าตาออกเหี้ยมเกรียม แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่ซื่อสัตย์ที่สุด แถมขี้เล่น อีกทั้งในต่างประเทศยังยกย่องให้ไทยหลังอานเป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์หายากที่สุดในโลก

ถึงหน้าตาจะดุ แต่จงรักภักดีที่สุด 🐕

หากพูดถึงสุนัขพันธุ์ไทยแท้ หลายคนอาจนึกถึง “บางแก้ว” (Thai Bangkaew) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ และได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วน “ไทยหลังอาน” (Thai Ridgeback) อาจพบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนนแบบไร้เจ้าของ แต่รู้หรือไม่ว่าในต่างประเทศ ยกย่องให้ไทยหลังอานเป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์หายากที่สุดในโลก



“บางแก้ว”
(Thai Bangkaew)

Photo Credit: www.dogzone.com


“ไทยหลังอาน”
(Thai Ridgeback)

Photo Credit: www.hundeo.com


หากมองในครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่า สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน มีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างดุ น่ากลัว แต่อันที่จริงแล้วพวกเขาก็มีลักษณะนิสัยกระตือรือร้นและขี้เล่นเช่นกัน พวกเขาโดดเด่นเรื่องการมีสัญชาตญาณระวังภัย ความซื่อสัตย์ และการจงรักภักดี เหมาะสำหรับครอบครัวที่พร้อมจะมีเวลาฝึกฝนพวกเขาให้ตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ เรียกได้ว่าถ้าฝึกให้ดี พวกเขาก็จะเป็นยามเฝ้าระวัง และเป็นนักล่าให้เจ้าของได้ในเวลาเดียวกัน  

ไทยหลังอาน ถูกจัดให้อยู่ในสุนัขประเภท “Pariah Type” หรือสุนัขจรจัด เพราะแม้สุนัขสายพันธุ์นี้จะเป็นสายพันธุ์ไทยแท้ แต่มักจะพบได้ทั่วไปในสถานพักพิง วัด หรือตามท้องถนนแบบไม่มีเจ้าของ อีกทั้งการสืบพันธุ์ของพวกเขายังคงสายพันธุ์แท้ไว้ได้เกือบทั้งหมด และยังคงรูปลักษณ์เหมือนเดิมเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่พวกเขาจะผสมพันธุ์กับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ


บรรพบุรุษของไทยหลังอานสืบย้อนไปตั้งแต่ในสมัยโบราณ กำเนิดขึ้นในช่วงเวลาที่สุนัขเริ่มวิวัฒนาการจากหมาป่า ไม่ชัดเจนว่าเข้ามาในประเทศไทยปี พ.ศ. ใด แต่หลักฐานสามารถพบได้ในงานเขียนของไทยตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดยระบุว่า ไทยหลังอานพบในภาคตะวันออกของประเทศไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย และเวียดนาม 

สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย ประกาศยอมรับว่า ไทยหลังอาน เป็นสุนัขไทยสายพันธุ์แรก จากนั้นสมาคมฯ ได้ยื่นจดทะเบียนกับสมาพันธ์สุนัขโลก (Federation Cynologique Internationale – FCI) และได้รับการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์เป็นสุนัขพันธุ์แท้ของโลกเมื่อปี พ.ศ. 2536 ต่อมา ไทยหลังอานได้ถูกนำเข้ามาในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 โดย Jack Sterling ผู้ชื่นชอบสุนัขสายพันธุ์หายาก โดยสายพันธุ์นี้เป็นสมาชิกของ Foundation Stock Service ของ AKC Foundation Stock (AKC) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสุนัขล่าสัตว์ (Hound) 

ทำไมถึงเรียกว่า “หลังอาน 🐕

ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นของขนบนหลังที่ขึ้นย้อนกลับ โดยเริ่มต้นที่ริมกระดูกสันหลังใต้ไหล่ทั้งสองลงไปเล็กน้อย จนถึงบริเวณกลางหลังหรือสะโพก ซึ่งมองแล้วมีลักษณะคล้ายอานม้าหรืออานรถ สำหรับชื่อที่ใช้เรียกอานก็จะเรียกตามรูปร่างหรือลักษณะ แบ่งได้เป็นกลุ่ม ๆ ดังนี้ อานลูกศร คืออานที่มีรูปร่างคล้ายลูกธนูหรือลูกศร อานแผ่น เป็นอานค่อนข้างใหญ่อยู่บนแผ่นหลัง และ อานตกข้าง เป็นอานที่มีรูปร่างคล้ายอานแผ่นแต่ขนาดใหญ่กว่า ตรงขอบอานจะตกมาจนถึงข้างลำตัว แต่อานลักษณะตกข้างนั้นไม่ถูกจัดว่าเป็นสายพันธุ์หลังอานตามมาตรฐานสายพันธุ์ที่รับรองโดยสมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) เพราะกำหนดไว้ว่าอานจะต้องอยู่บนขอบลำตัวเท่านั้น



ปัจจุบันมีสุนัขเพียง 2 สายพันธุ์ในโลกที่มีลักษณะขนย้อนกลับ คือ สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน (Thai Ridgeback Dog) และสุนัขพันธุ์โรดิเชียน (Rhodesian Ridgeback) ซึ่งสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานเป็นน้องหมาขนาดกลาง รูปร่างสมส่วน ดูแข็งแรง ปราดเปรียว ท่วงท่าสง่างาม หูตั้งเป็นรูปสามเหลี่ยม ดวงตากลมฉายแววฉลาดเฉลียว กระบอกปากยาวพอดีไม่ทู่สั้น จมูกดำ หางเรียบคล้ายรูปดาบ ขนสั้นเกรียน แน่นหนา เงางาม มีสีขนที่ได้รับการยอมรับอยู่ 4 สี คือ สีน้ำตาลแดง สีดำปลอด สีสวาด และสีกลีบบัว

 

ไทยหลังอาน สี่ขาแสนรู้คู่บ้าน 🐕

แม้ความดุของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานอาจจะไม่ขึ้นชื่อลือชาเท่ากับสายพันธุ์บางแก้ว แต่เรื่องความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีก็ไม่น้อยหน้า นอกจากนี้ ไทยหลังอานยังมีความเฉลียวฉลาด มั่นใจในตัวเองสูง มีความเป็นผู้นำ รักอิสระ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และมั่นคง พวกเขามีสัญชาตญาณของการระมัดระวัง คอยเตือนภัยได้อย่างดีเยี่ยม จึงเหมาะไว้เฝ้าดูแลครอบครัว บ้าน และทรัพย์สิน ทั้งนี้ พวกเขาเป็นสุนัขที่แข็งแรงซึ่งต้องการออกกำลังกายทุกวันเพื่อปลดปล่อยพลังงานและป้องกันความเบื่อหน่าย
 


อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังของสุนัขสายพันธุ์นี้คือ โรคผิวหนัง เพราะไทยหลังอานมีขนสั้นเกรียน ผิวหนังเปราะบาง เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ แล้วยิ่งถ้าอยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างเมืองไทย สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากก็คือแมลง ไม่ว่าจะเป็นยุง เห็บ หรือหมัด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคพยาธิเม็ดเลือด นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มเป็นโรคอื่น ๆ ได้อีก เช่น โรคติดเชื้อในหู โรคอ้วน โรคกระดูกสะโพกเคลื่อน และโรคท้องอืด หรือกระเพาะขยาย เนื่องจากมีอากาศสะสมอยู่มากกว่าปกติ ซึ่งโรคนี้ได้คร่าชีวิตน้องหมามากเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็งเลยทีเดียว

หากใครกำลังลังเลใจว่าจะหาสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานมาเลี้ยงเฝ้าบ้านดีหรือไม่ อาจจะต้องสำรวจว่าตนเองมีเวลาพร้อมที่จะดูแลและใส่ใจพวกเขามากน้อยขนาดไหน เพราะต่อให้พวกเขาจะเก่งกาจเรื่องเฝ้าบ้านและระวังภัยเป็นที่หนึ่ง แถมยังมีหน้าตาน่าเกรงขาม แต่พวกเขาก็ต้องการความรักความเอาใจใส่ไม่ต่างกับสัตว์เลี้ยงแสนซนตัวอื่น ๆ เช่นกัน



อ้างอิง

เรื่องโดย