Kind Journey

Gustaf Håkansson “คุณปู่น่องเหล็ก” นักปั่นจักรยานทางไกลวัย 66 ปี เฒ่าขบถผู้ทลายขีดจำกัดของตัวเอง


Gustaf Håkansson ชาวสวีเดนวัย 66 ปี ชายร่างผอมบาง ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราสีขาว ชายที่สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งสนามการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกลสุดคลาสสิก Sverigeloppet ที่พร้อมเข้ามาฉีกทุกกฎเกณฑ์การปั่นจักรยานทางไกล เตรียมอุ่นร่างกายให้พร้อม เพราะ KiNd กำลังจะพาคุณผู้อ่านด่ำดิ่งไปกับเรื่องราวของคุณปู่หัวรั้น ชายผู้เป็นดั่งตำนานที่เข้ามาเขย่าวงการนักปั่นจักรยานทั่วโลก!


ชายที่แม้แต่ซานตาครอสยังต้องอิจฉา!
☉☉

หลายครั้งที่ช่างตัดผมบอกให้ Gustaf Håkansson โกนหนวดโกนเคราออกให้ดูสะอาดตา แต่คุณปู่หัวรั้นวัย 66 ปีผู้นี้ก็ไม่ได้สนใจคำแนะนำนั้นแต่อย่างใด การทะเลาะกันครั้งนั้นทำให้เขาไม่เคยย่างกรายเข้าร้านตัดผมอีกเลยนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1933 จนเวลาผ่านไปนานถึง 18 ปี ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันปั่นจักรยาน ในปี ค.ศ. 1951 พร้อมหนวดเคราสีขาวยาวเฟิ้มที่ซานตาครอสผ่านมาเห็นคงต้องอิจฉาเป็นแน่

แต่การจะเข้าร่วมการแข่งขันมีข้อบังคับเพิ่มเติมนิดหน่อย ที่มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าคุณปู่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกแน่ ๆ และแม้ว่าคุณปู่ Håkansson จะปั่นจักรยานไปทั่วสวีเดนมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วก็ตาม แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่า เขาจะเข้าร่วมการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกลในตอนที่อายุปาเข้าไป 66 ปี เข้าไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้คว้าชัย (อย่างไม่เป็นทางการ) ในการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย! 

คุณปู่หมายเลขศูนย์
☉☉

เส้นทางการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกล Sverigeloppet เริ่มต้นที่ Haparanda เมืองทางตอนเหนือของสวีเดน ไปจนถึงเมือง Ystad ทางตอนใต้ รวมระยะทางแล้วไม่น้อยกว่า 1,760 กิโลเมตร ด้วยจำนวนผู้สมัครที่มีมากถึง 1,000 ราย ทำให้ผู้จัดการแข่งขันต้องคัดเลือกผู้สมัครอย่างเข้มงวด ให้เหลือเพียง 50 รายเท่านั้น แน่นอนว่าคุณปู่ Håkansson ที่ดูภายนอกจะไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก ก็ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกอย่างไม่เหนือความคาดหมาย 

ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนทยอยออกตัวไป พร้อมกับเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปตลอดทาง เหล่าตากล้องและนักหนังสือพิมพ์ต่างพุ่งความสนใจไปที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันโดยไม่เอะใจเลยสักนิด ว่าจะมีชายชราหมายเลขศูนย์ (แอบ) ร่วมปั่นจักรยานในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย 


คุณปู่ Håkansson หอบร่างผอมแห้ง พร้อมใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยหนวดเคราสีขาวยาวเด่นสะดุดตา ชายที่ดึงความสนใจจากผู้ชมและนักหนังสือพิมพ์แถวนั้นได้จนอยู่หมัด เหล่าช่างภาพต่างรัวชัตเตอร์มาที่ชายผู้นี้อย่างไม่หยุดหย่อน แสงแฟลชกระทบลงบนแผ่นป้ายเบอร์ ‘ศูนย์’ ที่เขาได้ทำขึ้นมาเองเพื่อการแข่งขันครั้งนี้โดยเฉพาะ

ความพยายาม (หรือจะบอกว่าความดื้อรั้นดี ?) ของคุณปู่ Håkansson ไม่ถูกขัดขวางจากคณะกรรมการอีกต่อไป เพราะแผ่นป้ายเบอร์ศูนย์ที่เขาทำขึ้นมา ได้แสดงทุกอย่างออกมาแล้วว่า เขาจริงจังกับการแข่งครั้งนี้ไม่ต่างจากผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ แม้ว่าจะออกตัวช้าไปถึงหนึ่งนาที (บางแหล่งบอกว่าหนึ่งชั่วโมง) ก็ตาม 

ขณะที่ ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ หยุดแวะพัก คุณปู่กลับเลือกที่จะปั่นจักรยานต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาปั่นเรื่อย ๆ ไม่เน้นเร็ว ไม่เน้นแข่งขันกับคนอื่น แต่อาศัยความสม่ำเสมอในการปั่นมากกว่า เขาไม่ได้แวะพักเหมือนนักปั่นคนอื่น และกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ปั่นไป 22 ชั่วโมงแล้ว 


เมื่อรุ่งเช้ามาเยือน เหล่านักปั่นก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง และพวกเขามักจะเห็นแผ่นหลังของคุณปู่กำลังปั่นจักรยานนำหน้าอยู่ลิบ ๆ เสมอ พอถึงช่วงเวลาพัก ขณะที่คนอื่นกำลังพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย คุณปู่กลับมุ่งหน้าปั่นจักรยานต่อไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกจากเจ้าหน้าที่หรือเพื่อนนักปั่นแต่อย่างใด เขายังคงมุ่งมั่นปั่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผ่านไปสามวัน ก็สามารถเก็บระยะทางได้ถึง 193 กิโลเมตร

ความมุ่งมั่นบวกกับความดื้อรั้นของคุณปู่ที่คว้าจักรยานคู่ใจลงสู่สนาม ตอนนี้คงไม่อาจปฏิเสธได้แล้วว่าคุณปู่ก็ทำมันออกมาได้ดีจริง ๆ ทำให้นักหนังสือพิมพ์ต่างประโคมเขียนข่าว “คุณปู่น่องเหล็ก” ผู้นี้อย่างไม่หยุดหย่อน ตอนนี้คุณปู่ก็ได้ครองหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับของสวีเดนเป็นที่เรียบร้อย 


พรีเซนเตอร์คนใหม่
☉☉

ภาพชายชราร่างผอมบาง ใบหน้าปกคลุมไปด้วยหนวดเครายาวสีขาว ซึ่งคงไม่มีผู้สนับสนุนการแข่งขันคนไหนให้ความสนใจชายคนนี้มากนัก ในทางกลับกันพวกเขาพยายามมองหานักแข่งหนุ่มหน้าตาดีเพื่อนำมาตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ของพวกเขาเอง แต่ดูเหมือนว่าทุกสำนักข่าวต่างมุ่งความสนใจไปที่คุณปู่คนนี้ไปเสียหมด ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นอกจากจะสร้างความประหลาดใจให้ผู้จัดการแข่งขันแล้ว ผู้สนับสนุนเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน ที่พวกเขาหวังจะเก็บภาพคนหนุ่มเพื่อนำมาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ของจักรยานที่กำลังจะเปิดตัว 

ขณะที่ ผู้เข้าแข่งขันอีก 50 ราย ต่างได้รับจักรยานรุ่นใหม่เพื่อนำมาแข่งขันในสนามครั้งนี้ แต่คุณปู่กลับปฏิเสธข้อเสนอ และยืนยันหนักแน่นว่า เขาขอใช้จักรยานของตัวเองลงแข่งดีกว่า และอีกหนึ่งรางวัลที่ทางผู้จัดงานมอบให้ก่อนการแข่งขันคือ ตั๋วรถไฟฟรีไปยังเมืองที่จัดการแข่งขัน 


เนื่องจากคุณปู่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่แรก เขาเลยพิสูจน์ตัวเองด้วยการเริ่มปั่นจักรยานจากบ้านที่เมือง Gantofta ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองที่จะจัดการแข่งขันมากถึง 1,610 กิโลเมตร แต่ดูเหมือนว่าการพิสูจน์ตัวเองครั้งนี้ของคุณปู่ไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด ทางคณะกรรมการผู้จัดการแข่งขันยังคงยืนยันว่า คุณปู่ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะร่วมการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกลครั้งนี้

เมื่อเช้าการแข่งขันมาเยือน คุณปู่น่องเหล็กก็แอบเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเงียบ ๆ เขาเริ่มปั่นจักรยานตามหลังผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ หลังจากที่พวกเขาหายลับไปจากท้องถนนแล้ว แต่ด้วยความโดดเด่นของคุณปู่ การปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เงียบอีกต่อไป ขณะที่คุณปู่กำลังปั่นจักรยาน กระแสลมที่พัดมากระทบชายสูงอายุร่างผอมบางคนนี้ ก็ค่อย ๆ เผยแผ่นป้ายที่เขียนหมายเลขศูนย์เอาไว้ที่หน้าอก และนี่คือภาพนาทีประวัติศาสตร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับของสวีเดน

กว่าจะมาเป็นคุณปู่น่องเหล็กในตำนาน
☉☉

คุณปู่ Håkansson เคยประกอบอาชีพพนักงานขับรสบัส แต่ได้เกษียณอายุออกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เขาต้องทำงานเลี้ยงดูมาเรีย ภรรยาที่รักของเขา และลูก ๆ อีก 10 คน ซึ่งประวัติโดยย่อของคุณปู่ เหล่านักหนังสือพิมพ์ต่างให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ข้อความส่วนหนึ่งในสกู๊ปพิเศษจากหนังสือพิมพ์ Dagens Nyheter รายงานว่า คุณปู่เป็นคนเคร่งศาสนามากที่สุดคนหนึ่ง และการทิ้งคัมภีร์ไบเบิลไว้ที่บ้านคงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อการแข่งขันมาเยือน เขาก็ไม่ลังเลที่จะวางไบเบิลไว้ด้านหลัง พร้อมคว้าอุปกรณ์คู่ใจเพียงไม่กี่อย่าง เช่น เสื้อคลุมกันหนาว ขวดน้ำ เครื่องสูบลม และชุดปะยางจักรยาน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันสุดทรหดครั้งนี้

 
คุณปู่เริ่มหลงใหลในการปั่นจักรยานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 ไม่ว่าพื้นที่ตรงนั้นจะมีเส้นทางเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมคว้าจักรยานคันเก่งเดินทางไปด้วยทุกเมื่อ และหลังจากที่ลูก ๆ ของเขาเติบโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว จู่ ๆ คุณปู่ก็เกิดนึกสนุกอยากจะลองปั่นจักรยานจากบ้านที่อยู่ทางตอนใต้ ไปเก็บผลโลแกนเบอร์รีแถวเทือกเขาทางตอนเหนือเอามาทานเล่นที่บ้านเสียอย่างนั้น  

ถ้าคิดว่าการปั่นจักรยานจากใต้ไปเหนือของคุณปู่น่าทึ่งแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเรื่องราวการผจญภัยที่คุณปู่แอบเผยออกมาให้เรารู้เพิ่มเติมอีกว่า เขาเคยปั่นจักรยานไปแลปแลนด์ (Lapland) ประเทศฟินแลนด์ ดินแดนในฝันของใครหลายคน และยังเป็นบ้านเกิดของซานตาครอสอีกด้วย ส่วนเหตุผลที่เลือกไปแลปแลนด์ คุณปู่บอกว่า ก็แค่อยากจะไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่คนเขาร่ำลือกันก็เท่านั้นเอง

การเดินทางแต่ละครั้งของเขาสร้างความงงงวยให้มาเรียไม่น้อย เขาเลยบอกกับภรรยาว่า “ถ้าคุณอยากเห็นโลกทั้งใบ เพียงแค่มีจักรยานและสองขาที่แข็งแรงก็เพียงพอแล้ว”


การแข่งขันปั่นจักรยานครั้งนี้ คุณปู่ตั้งใจกับมันมาก มากจนไม่หลับไม่นอน เมื่อถึงเวลาพัก เขาก็ไม่พัก เขาตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางคืนเขาก็นอนข้างถนนเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาปั่นจักรยานต่อ ระหว่างทางคุณปู่ได้พบกับเพื่อนร่วมทางมากหน้าหลายตา และต่างส่งกำลังใจชายชราอย่างล้นหลาม 

Photo Credit: The Norrlandsbild Newspaper/ The Sundvalls Museum


ในวันที่สี่ของการแข่งขัน ครั้งนี้คุณปู่ตัดสินใจแวะพักที่ริมถนนอีกครั้ง และได้นอนนานขึ้นหน่อยจากหนึ่งชั่วโมงก็เพิ่มเป็นห้าชั่วโมง สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมคุณปู่คนนี้ถึงทรหดขนาดนี้ คุณปู่ตอบกลับมาว่า “ฉันไม่เคยรู้สึกสบายใจขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต คุณจะรู้สึกเหนื่อยได้ยังไง เมื่อตลอดทั้งเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่ใจดีจากทั่วทุกหนแห่ง” 

แม้ว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะอยู่ห่างออกไปราว 193 กิโลเมตร แต่ตอนนี้ทั่วทั้งแผ่นดินสวีเดนกลับร้อนระอุไปด้วยข่าว “คุณปู่น่องเหล็ก” ที่เข้าร่วมการแข่งขันกับนักปั่นจักรยานอายุต่างกันเกือบครึ่งชีวิต ความป๊อบปูล่าของคุณปู่ส่งผลให้ผู้คนเดินทางมาพบเขาจากทั่วสารทิศ บางครั้งตำรวจต้องขับรถนำหน้าคุณปู่เพื่อไม่ให้ฝูงชนเข้ามารุมล้อมมากจนเกินไป 

เมื่อมาถึงเมือง Söderhamn ห่างจากจุดแข่งขันประมาณ 804 กิโลเมตร ซึ่งต้องผ่านจุดแวะพักเพื่อตรวจร่างกาย ครั้งนี้คุณปู่ถูกบังคับให้ตรวจร่างกายจนได้ แม้จะดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นักก็ตาม “คุณปู่น่องเหล็กมีร่างกายแข็งแรงไม่ต่างจากหินผา แต่เขาขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอในระหว่างวัน” แพทย์ผู้ตรวจร่างกายกล่าว ด้านคุณปู่ Håkansson ได้ตอบกลับไปว่า “เวลามันก็ผ่านไปเท่าเดิมนั้นแหละ ไม่ว่าคุณจะแวะพักหรือไม่พัก”

กว่าเขาจะถึงเมือง Ystad ซึ่งเป็นเมืองปลายทางของการแข่งขันใช้เวลาไปทั้งหมด 6 วัน กับอีก 14 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งตลอดการแข่งขันคุณปู่นอนไปแค่ 10 ชั่วโมงเท่านั้น!

ท้ายที่สุดคุณปู่ก็สามารถเข้าเส้นชัยได้สำเร็จด้วยจักรยานล้อแบน ๆ ที่ยางเพิ่งแตกก่อนเข้าเส้นชัยเพียงแค่ 800 เมตร และแทนที่เขาจะหยิบชุดแปะยางออกมาซ่อม เขาเลือกที่จะเข็นจักรยานไปเรื่อย ๆ เมื่อใกล้ถึงเส้นชัยก็ค่อยกระโดดคร่อมจักรยานคู่ใจที่ตอนนี้สภาพร่อแร่เต็มทีปั่นเข้าสู่เส้นชัย

แม้แต่กษัตริย์ยังต้องเรียกหา
☉☉

คุณปู่ Håkansson เข้าเส้นชัยก่อนผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ถึงหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่ภารกิจของคุณปู่ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะทันทีที่คุณปู่ก้าวเข้าสู่เส้นชัย พลันเสียงเพลงจากวงโยธวาทิตก็ดังขึ้น ผู้คนรอบข้างต่างโห่ร้องออกมาด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเประหว่างประหลาดใจกับดีใจดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนาม

ตอนนี้ความดื้อรั้นของคุณปู่ได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ไม่ว่าคุณจะมีอายุมากเพียงใด ขอแค่มีใจรักในสิ่งที่ทำ ก็สามารถทำมันออกมาได้ดีไม่แพ้นักกีฬารุ่นลูก และเมื่อบ่ายของวันรุ่งขึ้นมาถึง นักปั่นรุ่นปู่ผู้นี้ก็ไม่ได้อยู่ร่วมแสดงความยินดีต่อนักปั่นอีก 50 รายที่เหลืออีกต่อไป เพราะคุณปู่ติดภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ การร่วมดื่มชาแบบส่วนตัวกับกษัตริย์แห่งสวีเดน 

ผู้เป็นดั่งตำนานของงาน 
☉☉

ในปีต่อมาคุณปู่ได้กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของงานปั่นจักรยาน Sverigeloppet ไปโดยปริยาย บางครั้งคุณปู่จะเป็นคนปั่นจักรยานออกไปเปิดตัวก่อนเริ่มการแข่งขัน นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1951 จนถึง ค.ศ. 1964 มีการจัดการแข่งขันรวมแล้วกว่าสิบครั้งด้วยกัน แต่ก็ได้หยุดจัดการแข่งขันลงไปนานถึง 53 ปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 2017 อดีตนักปั่นจักรยานมืออาชีพ Bernt Johansson ได้รื้อฟื้นการแข่งขันปั่นจักรยานสุดคลาสสิกนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางการปั่นเหมือนในอดีต แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของนักแข่งมากนัก ขอแค่มีร่างกายแข็งแรงและพร้อมปั่นจักรยานทางไกล ระยะทาง 200-300 กิโลเมตรก็เพียงพอแล้ว


นอกจากคุณปู่จะดังเป็นพลุแตกหลังจากชนะการแข่งขันปั่นจักรยานเมื่อปี ค.ศ. 1951 แล้ว เขายังได้ผันตัวไปเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งตามงานเทศกาลต่าง ๆ และรับจ๊อบร้องเพลงตามบ้านพักคนชราทั่วประเทศอีกด้วย หลังจากนั้นจึงได้ปล่อยอัลบั้มเพลงแรกของชีวิตในชื่อ Stålfarfar Vals เส้นทางชีวิตที่พลิกผันทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจากจบรายการแข่งขันจักรยานทางไกล Sverigeloppet เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น

เดินทางแสวงบุญ
☉☉

แม้คุณปู่จะเป็นที่รู้จักทั่วทั้งประเทศแล้วก็ตาม แต่จิตวิญญาณของเขาก็ยังคงเรียกร้องหาการผจญภัยครั้งใหม่อยู่เสมอ และแล้วในปี ค.ศ. 1959 ตอนที่คุณปู่อายุ 74 ปี ก็ได้ออกเดินทางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การลงสนามแข่งขันหรือเก็บผลไม้ตามเทือกเขาอีกแล้ว คุณปู่เลือกที่จะปั่นจักรยานแสวงบุญ ไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ณ กรุงเยรูซาเล็ม ด้วยระยะทางกว่า 4,828 กิโลเมตร

แล้วการผจญภัยครั้งใหม่ของคุณปู่ก็เปิดฉากขึ้น การเดินทางไกลพร้อมจักรยานคู่ใจและสัมภาระเพียงเล็กน้อย เหมือนดั่งเช่นการแข่งขันครั้งก่อน แต่ครั้งนี้คุณปู่เตรียมตัวพร้อมกว่าเดิม เพื่อรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันในระหว่างการเดินทาง


เมื่อความมืดสงัดเข้ามาเยือน คุณปู่จึงต้องจำใจหาที่แวะพักท่ามกลางเมืองที่ไม่คุ้นเคยอย่าง Jericho ประเทศปาเลสไตน์ เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่กรุงเยรูซาเล็มอย่างปลอดภัย เขาเลือกพักที่ค่ายของชาวเบดูอิน ซึ่งพวกเขาได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นอย่างมาก แม้จะมีอุปสรรคทางด้านภาษาเข้ามาบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และดูเหมือนว่าคุณปู่จะชื่นชอบประเทศแถบตะวันออกกลางอยู่ไม่น้อย จึงเลือกพำนักอยู่นานถึงหนึ่งปีก่อนจะนั่งเรือกลับบ้านเกิดที่สวีเดน 

คุณปู่ยังคงปั่นจักรยานต่อไป จนอายุย่างเข้า 100 ปี ในปีเดียวกันนั้นเองแผ่นเพลงที่คุณปู่ปล่อยออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 1951 ก็ทำลายสถิติยอดขายสูงสุด ซึ่งทำให้คุณปู่กลายเป็นศิลปินอายุมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์สวีเดน 

ต่อมาในปี ค.ศ. 1986 มาเรีย ภรรยาสุดที่รักเพียงหนึ่งเดียวในใจของคุณปู่ก็จากไปตลอดกาล หลังจากที่ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมานานถึง 78 ปี และหลังจากนั้นไม่นานคุณปู่น่องเหล็กก็ได้จากโลกนี้ไปตลอดกาลในวัย 102 ปี 

สิ้นสุดตำนานคุณปู่น่องเหล็กผู้ทำลายขีดจำกัดของตัวเอง ชายชราที่ไม่หยุดฝัน แม้กาลเวลาจะทำให้ร่างกายเสื่อมถอยลงไปก็ตาม และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของ “คุณปู่น่องเหล็ก” ที่เข้ามาเปลี่ยนประวัติศาสตร์การปั่นจักรยานไปตลอดกาล…


ที่มา


เรื่องโดย