Kind Dine

ทำความรู้จักวาฟเฟิลไข่ : ขนมหวานสไตล์ฮ่องกง

กลิ่นเนยถูกทาบนเตาร้อน ๆ แป้งวาฟเฟิลถูกเทลงแม่พิมพ์รูปฟองสบู่ ทอปปิงต่าง ๆ ถูกเรียงรายไว้หน้าเตาอย่างเป็นระเบียบ เมื่อแป้งสุกจะถูกยกออกมาผึ่งลมให้เย็น จากนั้นจึงม้วนให้เป็นรูปทรงกรวยสวย เพิ่มรสชาติด้วยไอศกรีมรสต่าง ๆ ปิดท้ายด้วยการโรยด้วยทอปปิงแบบล้นทะลัก เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเดินผ่านร้านขนมหวานชนิดนี้ ขนมที่หน้าตาคล้ายบับเบิ้ลยักษ์มีชื่อว่า “วาฟเฟิลไข่” เป็นขนมหวานที่อิมพอร์ตมาไกลจากฮ่องกง

จากพิษเศรษฐกิจ สู่ต้นกำเนิดขนมหวานสุดครีเอท

วาฟเฟิลไข่ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองปี ค.ศ.1950 ด้วยเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ธุรกิจต่าง ๆ จึงหาวิธีสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ หรือใช้สิ่งที่มีอยู่พัฒนาให้มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ร้านของชำแห่งหนึ่งในฮ่องกง จึงได้คิดค้นวิธีจัดการไข่ไก่ที่ขายไม่ได้ให้เกิดประโยชน์ โดยนำไปแปรรูปเป็นขนมหวาน เพิ่มแป้งอเนกประสงค์ลงไป เติมนมจืดเพิ่มความหอม ใส่น้ำตาลเล็กน้อยเพิ่มรสหวาน ตบท้ายด้วยผงฟูเพื่อให้ขนมขึ้นรูปสวยงาม จากนั้นนำแม่พิมพ์รูปไข่มาประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ออกแบบให้ใช้ความร้อนจากถ่านหินเป็นหลัก จนกลายเป็นขนมหวานรูปแบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์ทั้งหน้าตาและรสชาติ

ในช่วงทศวรรษที่ 1960 – 1970 ฮ่องกงประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้ง ควบคู่ไปกับการอพยพของผู้คนจากจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับเศรษฐกิจที่ซบเซาเนื่องจากสงครามโลก จึงมีจำนวนแรงงานมากกว่าผู้ประกอบการ ส่งผลให้ผู้คนตกงานจำนวนมาก หลายคนหันไปหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพ่อค้าหาบเร่แทน และได้เริ่มนำวาฟเฟิลไข่วางขายบนรถเข็น คันแล้ว คันเล่า อุปกรณ์ทั้งหมดถูกดัดแปลงให้เป็นแบบพกพาเพื่อให้ง่ายต่อการหาบเร่ จนกลายเป็นเมนูยอดนิยมของคนในพื้นที่เลยทีเดียว ด้วยจำนวนร้านที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้     การขายของบนถนนขาดความเป็นระเบียบ ซึ่งเป็นเหตุให้การขายของริมทางถูกปราบปรามจากทางรัฐบาล เนื่องจากกฎหมายในการขายของบนถนนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย รัฐบาลหยุดออกใบอนุญาตหาบเร่ในปี ค.ศ.1970 ทำให้ผู้ขายรายใหม่ผิดกฎหมายตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 – 2000 เป็นต้นมา จนทำให้วาฟเฟิลไข่ไม่ได้รับความสนใจเช่นเดิม ผู้คนเริ่มหลงลืม และละทิ้งขนมหวานชนิดนี้ให้หายไปตามกาลเวลา

ในขณะเดียวกัน นิตยสารชื่อดังอย่าง New York Times ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ Cecilia Tam หญิงสาวผู้อพยพชาวฮ่องกง ที่ได้นำขนมหวานสไตล์ฮ่องกงอย่างวาฟเฟิลไข่ไปขายที่ Mosco Street แน่นอนว่าเธอได้ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักขนมชนิดนี้ “วาฟเฟิลไข่” ขนมหวานที่เป็นสัญลักษณ์การเปลี่ยนผ่านของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของฮ่องกง


จากกระแสในโซเชียล สู่ขนมหวาน Iconic Hong Kong Street Food

ในปี ค.ศ.2014 เมื่อ Nicolas Tse นักแสดงชาวฮ่องกง ได้สัมภาษณ์เจ้าของร้านวาฟเฟิลไข่อายุ 60 ปี ในรายการอาหารของเขา ซึ่งหลังจากออกอากาศ วาฟเฟิลไข่ถูกแนะนำให้ผู้คนรู้จักอีกครั้งในนาม Iconic Hong Kong Street Food ขนมหวานที่เติบโตมาพร้อมประวัติศาสตร์ของฮ่องกง เวลาเพียงข้ามคืน วาฟเฟิลไข่ได้รับความสนใจจากผู้คนจนเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย ร้านวาฟเฟิลไข่ได้เริ่มผุดขึ้นตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ลอนดอน เมลเบิร์น โตรอนโต และนิวยอร์ก 

ซิดนีย์ เฉิง ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการโครงการด้านการจัดการวัฒนธรรมที่มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงกล่าวว่า “อาหารเปลี่ยนไปตามวัฒนธรรม และวิถีชีวิตทำให้เป็นสากล” เมื่อวาฟเฟิลไข่เดินทางไปสู่ประเทศต่าง ๆ จึงมีการพัฒนาสูตรที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของรสชาติ มีการเพิ่มรสสัมผัสด้วยการใส่ช็อกโกแลตชิปและอัลมอนด์ เพิ่มรสชาติให้กับแป้งด้วยการเติมผงช็อกโกแลตและมัทฉะ มีการใส่ไอศกรีมรสชาติ ๆ ลงไปเพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายในเด็กมากขึ้น และลักษณะของวาฟเฟิลไข่ที่มีการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มสีสันให้ฉูดฉาด เน้นการตกแต่งให้น่ารัก เพื่อเป็นการสร้างกระแสในโลกโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นการตลาดที่ดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างดี

How To การทำวาฟเฟิลไข่ง่าย ๆ แต่รสชาติสุดอร่อย

“การทำวาฟเฟิลที่ดีนั้น คุณต้องมีส่วนผสมที่ดี เทคนิคที่ดี และอากาศที่ดี” ลี ซุย หยวน พ่อค้าวาฟเฟิลไข่จากยุคบุกเบิกในฮ่องกงกล่าว วันนี้ KiNd จึงได้นำสูตรการทำวาฟเฟิลไข่ง่าย ๆ มาฝาก

วัตถุดิบ

แป้งอเนกประสงค์ ¾ ถ้วย (175 มล.)                             ผงฟู 1 ช้อนชา (5 มล.)
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา (5 มล.)                                      เกลือ ⅛ ช้อนชา (0.5 มล.)
ไข่ 1 ฟอง                                                                       น้ำตาล ½ ถ้วย (125 มล.)
นม ¼ ถ้วย (50 มล.)                                                       น้ำเปล่า ¼ ถ้วย (50 มล.)
สารสกัดวานิลลา 1 ช้อนชา (5 มล.)                                 เนยจืดละลาย 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.)


วิธีทำ

  1. ผสมแป้ง ผงฟู แป้งข้าวโพด และเกลือ นวดให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ น้ำตาล นม น้ำ เนยจืด และกลิ่นวานิลลา ค่อย ๆ นวดส่วนผสมจนเข้ากันดี
  2. ฉีดน้ำมันแต่ละด้าน เปิดเครื่องทำวาฟเฟิลไข่บนไฟกลาง 3 นาที ใส่แป้งวาฟเฟิล ¾ ถ้วยลงในหลุมทั้งหมด จากนั้นพลิกเครื่องทำวาฟเฟิลแล้วทิ้งไว้เป็นเวลา 2-4 นาที ก่อนจะพลิกเครื่องทำวาฟเฟิลอีกครั้ง แล้วทิ้งไว้ 2-4 นาทีหรือจนแป้งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง จากนั้นนำวาฟเฟิลไข่ออกและพัก 1 นาทีเพื่อให้วาฟเฟิลฟองสบู่กรอบ และโรยทอปปิงตามใจชอบได้เลย

อ้างอิง

เรื่องโดย

ภาพโดย