ภาพยนตร์เพลงแนวคอมเมดี้-ดราม่า ที่เล่าถึงการเติบโตของเด็กหนุ่มชาวไอริช คอเนอร์ ลอว์เลอร์ กับชีวิตใหม่ใน Synge Street CBS โรงเรียนคริสเตียนชายล้วนใกล้บ้าน เนื่องจากครอบครัวได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ของไอร์แลนด์ในยุค 80’s ถึงสภาพสถานศึกษาจะไม่น่าอภิรมย์นัก แต่ “สาวสวยคนนั้นที่ไม่ยอมคุยกับใครเลย” กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งวงดนตรี Sing Street ภาพโปสเตอร์โฆษณารูปเด็กชายเล่นกีตาร์ และชื่อผู้กำกับอย่าง จอห์น คาร์นีย์ ผู้สร้าง Begin Again และ Once รับประกันได้ถึงคุณภาพดนตรี และเนื้อเรื่องที่จะจุดประกายบางอย่างให้กับคนดู
เสน่ห์ของ “Sing Street” ไม่ใช่แค่งานเพลงในเรื่องและเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจให้ออกวิ่งตามความฝัน สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้คือการพาผู้ชมกลับไปพบกับความหอมหวาน (และขมขื่น) ของช่วงเวลาแห่งการไล่ล่าความฝัน ค้นหาตัวเอง หรืออาจจะแก้ปัญหาชีวิต อย่างเต็มความสามารถและทุ่มพละกำลังทั้งหมดที่มี นี่คือสิ่งล้ำค่าของการเป็น “วัยรุ่น”
แม้ตัวภาพยนตร์จะเต็มไปด้วยองค์ประกอบ (ที่ดูเหมือนจะเป็น) ตัวละครสูตรสำเร็จอย่าง “เด็กหนุ่มไฟแรง” “ผองเพื่อนที่พร้อมช่วยเหลืออยู่เสมอ” “นางเอกจอมหยิ่ง” “พี่ชายที่ปรึกษา” และ “นักเลงสายบูลลี่”
แต่สิ่งที่คอเนอร์ (และวัยรุ่นทุกคน) ต้องรับมืออย่างแท้จริงคือความขลาดเขลาและความสับสน เพื่อที่จะเติบโตไปอีกขั้น
Photo Credit: youtube.com
วัยรุ่นคือช่วงวัยแห่งการค้นหาตัวตน โหยหาการยอมรับ และอยากจะเป็น “ใครสักคน (Somebody)” ของโลกใบนี้ ของรั้วโรงเรียน หรืออาจจะแค่ของครอบครัวตัวเอง แม้ว่า Sing Street จะพูดถึงการต่อสู้เพื่อความฝันเป็นหลัก แต่ก็ยังสอดแทรกประเด็นปัญหาภายในโรงเรียนและครอบครัว ที่มีอิทธิพลต่อคนวัยนี้อย่างมาก
Brown Shoes หนึ่งในเพลย์ลิสต์จาก Sing Street สะท้อนถึงปัญหาการใช้อำนาจของผู้สอนภายในโรงเรียนที่คอเนอร์ต้องเผชิญ จากความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ และแสดงออกถึงการขัดขืนผ่านบทเพลงที่แสดงบนเวทีของโรงเรียน และ Drive It Like You Stole It ที่สะท้อนถึงความเป็นวัยรุ่นอย่างถ่องแท้ วัยแห่งความเลือดร้อนและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายขนาดไหนก็ตาม
นอกเหนือจากบทเพลง ปมปัญหาและพื้นหลังของตัวละครก็แสดงถึงการต่อสู้ของวัยรุ่นเช่นกัน “นางเอกจอมหยิ่ง” กับหนทางการไล่ตามความฝันบนเกาะอังกฤษ “พี่ชายที่ปรึกษา” กับอดีตเมื่อครั้งวัยรุ่นที่ไม่สามารถก้าวข้ามความขลาดเขลาไปได้ หรือกระทั่ง “นักเลงสายบูลลี่” ที่มีเบื้องหลังมากกว่าแค่ชอบหาเรื่องเด็กใหม่ในโรงเรียน
พวกเขาล้วนต่อสู้กับสภาพแวดล้อมที่บีบให้ต้องปรับเปลี่ยน เพียงเพื่อตัวตนของเขาจะได้เป็นที่ยอมรับจากใครสักคน
Photo Credit: youtube.com
แม้ว่าหนทางจะดูยาวไกล เต็มไปด้วยขวากหนาม และมองเห็นปลายทางไม่ชัดเอาเสียเลย แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่น คำว่า “เป็นไปไม่ได้” ไม่มีอยู่จริง
พวกเขาพร้อมจะพุ่งชนและทำทุกอย่างเพื่อเข้าใกล้จุดมุ่งหมายเหล่านั้น ด้วยพลังแห่งบทเพลงและเหตุนี้เอง เรื่องราวน่าเอาใจช่วยของเหล่าวัยรุ่นชาวไอริช จึงสามารถตรึงผู้ชมไว้กับหน้าจอได้ครบตลอด 106 นาที
อาจกล่าวได้ว่า Sing Street เป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยพลังของความเป็นวัยรุ่น ความกล้าบ้าบิ่น ความแน่วแน่ต่อความฝัน และความเชื่อมั่นในตัวเองแม้ว่าโลกความจริงจะโหดร้าย Sing Street จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่น แต่เป็นภาพยนตร์ที่จะดึงความเป็นวัยรุ่นของทุกคนออกมาอีกครั้ง