Kindvironment

“หิมะ” ในสหราชอาณาจักรอาจเหลือเพียงตำนาน


จะเป็นอย่างไร หากฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะของสหราชอาณาจักรอาจกลายเป็นเพียงอดีต โดย Met Office หน่วยงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร คาดการณ์สภาพอากาศของสหราชอาณาจักรว่า ในช่วงปี ค.ศ. 2040 ทางตอนใต้ของอังกฤษส่วนใหญ่จะไม่สามารถรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์ได้อีกต่อไป และภายในปี ค.ศ. 2060 มีเพียงพื้นที่สูงและทางตอนเหนือของสกอตแลนด์เท่านั้นที่ยังคงมีอากาศหนาวจัด ซึ่งการคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับการเร่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก

เมื่อศตวรรษของหิมะในสหราชอาณาจักรกำลังสิ้นสุดลง

ดร. ลิซซี่ เคนดอน นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของ Met Office กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจหมายถึงการสิ้นสุดของการเล่นเลื่อนหิมะ ปั้นสโนว์แมน และเล่นขว้างหิมะก็เป็นได้

เรากำลังบอกว่าภายในสิ้นศตวรรษนี้ หิมะส่วนใหญ่จะหายไปทั้งหมด ยกเว้นบนพื้นดินที่สูงที่สุด ซึ่งหากโลกลดการปล่อยมลพิษลงอย่างมากการเปลี่ยนแปลงก็จะน้อยลงเช่นกัน


วันที่หนาวที่สุดโดยเฉลี่ยในสหราชอาณาจักรในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาคือ -4.3 องศาเซลเซียส โดยหากยังมีการปล่อยมลพิษเพิ่มขึ้น จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกที่ 4 องศาเซลเซียส ดังนั้นวันที่หนาวที่สุดโดยเฉลี่ยในสหราชอาณาจักรจะยังคงสูงกว่า 0 องศาเซลเซียสในเกือบทั่วประเทศตลอดฤดูหนาว ซึ่งแม้ว่าการปล่อยมลพิษทั่วโลกจะลดลงอย่างมากและอุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส แต่วันที่หนาวที่สุดในสหราชอาณาจักรก็น่าจะอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียสต่อไป


รายงานจาก Met Office ระบุว่า อุณหภูมิเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ และในบางปีอาจมีอากาศหนาวเย็นกว่าค่าเฉลี่ยในบางวัน ซึ่งการคาดการณ์นี้จะสำรวจว่าสภาพอากาศของสหราชอาณาจักรอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ในฤดูหนาวบางวันอุณหภูมิอบอุ่น อากาศแห้ง หรือแม้แต่ในฤดูร้อนอุณหภูมิก็ร้อนและแห้งด้วย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดในสภาพอากาศของสหราชอาณาจักร

ด้าน ดร. มาร์ค แม็คคาร์ธี จากศูนย์ข้อมูลสภาพภูมิอากาศแห่งชาติของสำนักงาน Met Office กล่าวว่า “อัตราและลักษณะของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เราเห็นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม นั่นอาจฟังดูไม่มากนัก แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสภาพภูมิอากาศของเราอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพอากาศ พืช และสัตว์หลายชนิด

ปล่อยมลพิษเพิ่ม อากาศร้อนขึ้น

ข้อมูลจาก Met Office ระบุว่า ในอีกหลายทศวรรษข้างหน้าอุณหภูมิอาจสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน การเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดจะอยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของสหราชอาณาจักรที่มีอากาศอบอุ่นกว่า ในขณะเดียวกันสภาพอากาศก็จะรุนแรงมากขึ้น

คลื่นความร้อนมีแนวโน้มที่จะพบได้บ่อยขึ้นและคงอยู่นานขึ้น โดยมีอุณหภูมิสูงเกินเป็นประวัติการณ์ ไม่ใช่ทุกฤดูร้อนที่จะร้อนกว่าที่ผ่านมา แต่แนวโน้มในระยะยาวจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการปล่อยมลพิษยังไม่ลดลง

Photo Credit: suzy hazelwood/ Pexels


สถานการณ์การปล่อยมลพิษที่ยังสูงขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่า อุณหภูมิสูงสุดในฤดูร้อนอาจเพิ่มขึ้นระหว่าง 3.7 องศาเซลเซียส ถึง 6.8 องศาเซลเซียส ในช่วงปี ค.ศ. 2070 เมื่อเทียบกับช่วงปี ค.ศ. 1981 ถึง ค.ศ. 2000 หากโลกประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยมลพิษ  อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ก็จะน้อยลงด้วย

ตัวอย่างเช่น เฮย์ส (Hayes) เมืองทางฝั่งตะวันตกของลอนดอน มีแนวโน้มที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างมาก โดยวันที่ร้อนที่สุดโดยเฉลี่ยในเฮย์ส คือ 32 องศาเซลเซียส ในราว ๆ 20 ปีที่แล้ว หากการปล่อยมลพิษยังคงเร่งขึ้น วันที่ร้อนที่สุดโดยเฉลี่ยอาจถึง 40 องศาเซลเซียส ภายในปี ค.ศ. 2070 ซึ่งหากการปล่อยก๊าซทั่วโลกลดลง อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้จะไม่รุนแรงนัก

“ฉันคิดว่ามันน่ากลัวจริง ๆ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่เป็นเพียงการกระตุ้นและปลุกทุกคนให้รับรู้เท่านั้น” ดร. เคนดอน กล่าว


ฤดูร้อนที่ใกล้เข้ามาถึงไม่เพียงแต่ร้อนขึ้นเท่านั้น แต่อากาศอาจจะแห้งกว่านี้ด้วย โดย Met Office คาดการณ์ว่า ฝนในฤดูร้อนอาจเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เมื่อฝนตกก็มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น อากาศจะแห้งนานขึ้น ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและกะทันหันอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม เนื่องจากพื้นดินแห้งไม่ดูดซับน้ำและพื้นดินชื้น

รัฐบาลสหราชอาณาจักรตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 68%

Met Office คาดการณ์ว่า ในช่วงฤดูหนาวปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ การคาดการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ทางตะวันตกของสหราชอาณาจักรอาจเปียกชื้นกว่าเดิมภายใต้สถานการณ์ที่มีการปล่อยมลพิษสูง แน่นอนว่าบางปีมักจะมีแนวโน้มที่จะลดลงด้วยอากาศที่เย็นกว่าปีอื่น ๆ และจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระดับภูมิภาค

รูปแบบของฤดูหนาวที่ฝนตกชุกและฤดูร้อนที่มีฝนตกชุกมากขึ้นทั่วทั้งประเทศ มีความเสี่ยงที่จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานอยู่ภายใต้ความน่ากังวลมากขึ้น ทั้งถนน ทางรถไฟ อ่างเก็บน้ำ ท่อระบายน้ำ สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่เคยมีในอดีต และส่วนใหญ่อาจต้องได้รับการพัฒนาหรือสร้างใหม่เพื่อรับมือกับพายุและน้ำท่วมที่จะมาถึง


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดได้ประกาศเป้าหมายใหม่ในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสหราชอาณาจักรลง 68% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ตามระดับปี ค.ศ. 1990 ขณะที่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรก็ตั้งเป้าหมายว่า จะนำพาประเทศให้เป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น ๆ ในการจัดการกับสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง


ที่มา


เรื่องโดย