Kind Sustain

เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ วอร์ซอผุดไอเดีย “สนามเด็กเล่นฟอกอากาศ” ที่นอกจากจะเล่นสนุกแล้ว ยังช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย!


หากคำกล่าวที่ว่า “เด็กคืออนาคตของชาติ” นั่นหมายถึงชาติหรือประเทศที่เป็นแหล่งพำนักพักพิงตั้งแต่เกิดของพวกเขาเหล่านี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเด็กและเยาวชนเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ คอยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายประเทศหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กมากยิ่งขึ้น เพราะเด็กหรือเยาวชนเหล่านี้จะกลายเป็น “พลเมืองสำคัญ” ของชาติต่อไปในอนาคต

Photo Credit: AirBubble_playground_plan/ecoLogicStudio


โครงสร้างทางสังคมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็ก ๆ คงหนีไม่พ้นการมีพื้นที่สาธารณะดี ๆ สักแห่ง และหนึ่งในนั้นคือ “สนามเด็กเล่น” กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์เองก็เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว แต่ปัญหาใหญ่ที่เมืองหลวงแห่งนี้กำลังเผชิญอย่างหนักคือ ค่ามลพิษทางอากาศที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของยุโรป ด้วยเหตุนี้ โปรเจกต์ AirBubble นำโดย ดร.Marco Poletto และ ดร.Claudia Pasquero จาก ecoLogicStudio นักออกแบบชาวอังกฤษจะนำมาใช้ดีไซน์สนามเด็กเล่นฟอกอากาศ เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ เล่นสนุกและลดโลกร้อนไปในตัว

สนามเด็กเล่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด
●●●

Photo Credit: AirBubble_playground_plan/ecoLogicStudio


องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มลพิษทางอากาศถือเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพที่ร้ายแรงที่สุดในยุโรป ส่งผลให้เด็กกว่า 93 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีพื้นที่สาธารณะที่เอื้ออำนวยแก่การเล่น พวกเขาต้องใช้ชีวิตวัยเด็กในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและเต็มไปด้วยมลภาวะทางอากาศ วอร์ซอจึงได้รับเลือกให้เป็นเมืองนำร่องสร้างสนามเด็กเล่น AirBubble เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในเมืองหลวงให้ก้าวข้ามสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษในปัจจุบันไปได้

สนามเด็กเล่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดแห่งนี้ ทีมออกแบบได้ดีไซน์เป็นพื้นที่ปิดรูปทรงกระบอก ช่วยปกป้องเด็ก ๆ จากมลพิษทางเสียงและปัญหาฝุ่นควันในเมืองหลวง โดยใช้วัสดุ ETFE (Ethylene Tetrafluoroethylene) พลาสติกสังเคราะห์ ซึ่งพัฒนามาจาก PTFE มีคุณสมบัติโปร่งใสเหมือนกระจกและมีความอ่อนนุ่มเหมือนผ้า แต่มีความแข็งแรงทนต่อแรงดึง มีความยืดหยุ่นสูง และไม่แตกเหมือนกระจก จึงทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน อีกทั้งยังทนทานต่อแสงยูวี รองรับน้ำหนักได้มาก สามารถใช้งานภายนอกได้เป็นอย่างดี

Photo Credit: AirBubble_playground_plan/ecoLogicStudio


นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่การนำปฏิกรณ์ชีวภาพ (Bioreactor) จำนวน 52 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องได้เพาะเลี้ยงสาหร่ายคลอเรลลา (Chlorella) จำนวน 10 ลิตรลงในแก้วทนความร้อนสูง (Borosilicate glass) ซึ่งสามารถกรองอากาศเสียได้เร็วถึง 200 ลิตรต่อนาที ดังนั้นสาหร่ายเหล่านี้ จึงเปรียบเสมือนฮีโร่ตัวจิ๋วที่ทำหน้าที่ช่วยขจัดมลพิษทางอากาศภายในสนามเด็กเล่น ให้กลับมามีความบริสุทธิ์อีกครั้ง

“หากอยู่ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม สาหร่ายเหล่านี้จะเป็นผู้ช่วยชั้นดีในการกรองและลดระดับความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ อีกทั้งยังสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ไว้เป็นแหล่งพลังงาน เพื่อเพิ่มชีวมวลของพวกมันได้อีกด้วย” ดร. Marco Poletto กล่าว พร้อมเสริมว่า

Photo Credit: AirBubble_playground_plan/ecoLogicStudio


“พวกมันสามารถปล่อยออกซิเจนออกสู่ธรรมชาติได้ไม่ต่างจากพืชชนิดอื่น ๆ สนามเด็กเล่นแห่งนี้จึงเป็นเหมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายที่กักเก็บอากาศบริสุทธิ์เอาไว้”

โดยสาหร่ายจะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในระหว่างที่เด็ก ๆ กระโดดโลดเต้นบนลูกบอลเด้งดึ๋งสีเขียว (ด้านล่างเป็นเครื่องสูบน้ำ) แทนที่พื้นที่สีเขียวที่นับวันจะลดลงเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีเชือกให้พวกเขาปีนป่ายได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่ศูนย์วิทยาศาสตร์โคเปอร์นิคัส (Copernicus Science Centre) ณ กรุงวอร์ซอ

นับตั้งแต่ AirBubble เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 พบว่า โปรเจกต์ดังกล่าวประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี เห็นได้ชัดเจนจากค่ามลพิษทางอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ภายในสนามเด็กเล่นที่ลดลงถึง 83 เปอร์เซ็นต์ และในอนาคต ecoLogicStudio วางแผนที่จะสร้าง AirBubble เพิ่มขึ้นทั่วโลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเด็ก ๆ ให้สามารถใช้ชีวิตในวัยเด็กได้อย่างสนุกสนาน ท่ามกลางพื้นที่สาธารณะที่อัดแน่นไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ คอยเป็นแรงผลักดันเล็ก ๆ ให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแรงและมีชีวิตต่อไป ไม่ต้องคอยพะวงถึงผลเสียต่อสุขภาพที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต


อ้างอิง


เรื่องโดย