Kind Hearted

เพราะใคร ๆ ก็อยากได้รับการใส่ใจ “ต้นไม้” ก็เช่นกัน…


Because we care
“เราใส่ใจ เพราะเราไม่ได้เพียงแค่อยากส่งต่อต้นไม้
แต่อยากส่งต่อความสุขผ่านพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน”


“การปลูกต้นไม้ประดับบ้าน” หนึ่งในเทรนด์สุดฮิตช่วงขวบปีนี้ แต่เป็นกิจกรรมสุดคลาสสิกที่มีมาแล้วเนิ่นนาน จริงอยู่ที่การปลูกต้นไม้ไม่ใช่ของใหม่ และภาพจำสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรมนี้ก็คือ กลุ่มคนวัยทำงานจวบจนกลุ่มผู้สูงอายุที่มีพื้นที่บ้านกว้าง ๆ เป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้ามองลึกลงไปตอนนี้ นักปลูกต้นไม้กลับขยายวงกว้างออกไปกลายเป็นกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นที่พักอาศัยในพื้นที่จำกัด

อาจจะเป็นเพราะปัญหาเรื่องมลพิษในเมืองกรุง หรือความร้อนรุ่มของอากาศเมืองไทย ทำให้ “คนเมืองกำลังแสวงหาธรรมชาติ” แต่ด้วยชีวิตอันรีบเร่งจนไม่สามารถดึงตัวออกไปสัมผัสกับธรรมชาติได้ ทางออกก็คือนำธรรมชาติเข้ามาอยู่ในบ้านนั่นเอง แล้วยิ่งสังคมไทยกำลังประสบกับโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด ส่งผลกระทบให้ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้านหรือทำงานที่บ้านเป็นหลัก จึงอาจเป็นตัวกระตุ้นให้กระแสการปลูกต้นไม้ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก 

วันนี้ KiNd มีโอกาสได้สัมภาษณ์ “คุณปุยวิทิตา ลีลาสุธานนท์” หนึ่งในเจ้าของ “Grab Grow Green” เพจร้านขายต้นไม้ออนไลน์จากเมืองภูเก็ต ที่มีจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านจากการไปเดินกาดหลวงที่เชียงใหม่ จากนั้นได้ซื้อใบมอนสเตอร่ากลับมาตกแต่งบ้าน แล้วเกิดอยากจะปลูกเจ้ามอนสเตอร่าแบบจริงจังขึ้นมาดูบ้าง และด้วยความที่คุณปุยชอบปลูกต้นไม้อยู่แล้วบวกกับแรงบันดาลใจเล็ก ๆ จากเชียงใหม่ จึงคุยกับแฟน “คุณฝนศรานต์จิต ถิรวิริยาภรณ์” ซึ่งเป็นเจ้าของร่วม ชักชวนกันมาเปิดเพจขายต้นไม้ที่เป็นงานอดิเรกเพื่อสร้างรายได้ นอกจากนี้คุณปุยยังบอกกับเราอีกว่า

ตอนนั้นรู้สึกว่าเวลาปลูกต้นไม้เรามีความสุข เวลาอยู่ในพื้นที่สีเขียวมันสงบ สิ่งวุ่นวายรอบตัวหยุดนิ่ง ใช้เวลาอยู่กับมัน รดน้ำ ทำให้มีสมาธิ อยากส่งต่อความสุขตรงนี้ให้คนอื่นได้รู้สึกเหมือนกัน พี่คิดว่าตอนนี้ต้นไม้กับคนรุ่นใหม่ค่อนข้างไกลกัน พี่เลยรู้สึกว่าปลูกต้นไม้ในบ้านก็เหมือนเป็นสวนเล็ก ๆ ที่ทำให้เขาได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมือนรู้จักที่จะใส่ใจสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ มากขึ้น เหมือนให้ต้นไม้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันจนเป็นเรื่องธรรมดาของการปลูก การดูแล จึงเกิดเป็น Grab Grow Green ให้เขามารับต้นไม้จากเราแล้วไปเติบโตที่บ้านของเขา”

จุดเด่นของร้านคือการถ่ายทอดต้นไม้ผ่านภาพสวยและการบริการอย่างใส่ใจ

เนื่องจากกระแสการปลูกต้นไม้นั้นกำลังมาแรง ทำให้เกิดเพจขายต้นไม้ออนไลน์ขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก แถมต้นไม้บางชนิดที่อยู่ในกระแสราคายังสูงขึ้นอีกเท่าตัว แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ Grab Grow Green เป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกเลือกสำหรับนักปลูกมือใหม่ และมือเก่า แต่ต้องบอกกันก่อนว่าร้านนี้มีช่องทางการจัดจำหน่าย 2 ช่องทางด้วยกันคือ Instagram และ Facebook โดยส่วนใหญ่จะเน้นทาง Instagram เป็นหลัก เนื่องจากจุดเด่นของการนำเสนอของร้านนี้คือ “การถ่ายทอดต้นไม้ผ่านภาพสวย” โดยคุณปุยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

รูปที่เราถ่ายลง เราจะได้รับฟีดแบคว่าร้านนี้มีความโดดเด่น ดึงจุดเด่นของต้นไม้ออกมาได้ชัดมาก ตั้งใจถ่าย ตั้งใจนำเสนอจริง ๆ บางต้นไม่ได้อยู่ในกระแส เพราะบางทีเรารู้สึกว่าต้นไม้ในกระแสราคาสูงจนลูกค้าโดนเอาเปรียบ เราเลยเลือกต้นไม้นอกกระแสมาขายด้วย เพราะเขาก็สวยไม่ต่างกัน พอมานำเสนอแล้วมีคนเห็นต้นไม้ต้นนี้สวยเหมือนกัน เราเลยรู้สึกว่าประสบความสำเร็จแล้วในการนำเสนอต้นไม้ต้นหนึ่งให้คนรู้จัก

นอกจากจุดเด่นเรื่องการนำเสนอต้นไม้ผ่านภาพถ่ายที่สวย และสื่อจุดเด่นของแต่ละต้นออกมาได้อย่างชัดเจนแล้ว “เรื่องการบริการอย่างใส่ใจ” ก็เป็นอีกเรื่องที่คุณปุยให้ความสำคัญ เพราะจากประสบการณ์การซื้อต้นไม้จากหน้าร้านตามปกติ เมื่อเราซื้อออกจากร้านมาแล้ว ถ้าต้นไม้ตายก็คือตาย เป็นลักษณะการขายแบบขายขาด ไม่มีบริการหลังการขาย แต่ถ้าเป็นการซื้อขายแบบออนไลน์ ลูกค้าที่ซื้อต้นไม้ไปแล้วนั้น ก็จะเหมือนมีที่ปรึกษาส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง เพราะสามารถทักมาสอบถามได้ตลอดเวลาหากต้นไม้มีปัญหา 

เราจะเน้นเรื่องการบริการ เรื่องความใส่ใจ เราแค่อยากบอกลูกค้าว่าเราใส่ใจยังไงบ้าง อย่างเช่น มีลูกค้าทักมาว่าสนใจต้นนี้หรือต้นนี้ เราก็จะถามก่อนว่าที่บ้านแสงเป็นยังไง บรรยากาศเป็นยังไง ร้อนมั้ย ถ้าเกิดต้นนั้นไม่เหมาะเราก็จะไม่แนะนำ จะไม่ดันทุรังขายอย่างเดียว เพราะถ้าเขารับไปปลูกต่อมันก็ตายก็เสียใจกันทั้งคู่

โดยทาง Grab Grow Green มีคอนเซ็ปต์เพื่อบริการลูกค้าคือ การตั้งใจพัฒนาการบริการและดูแลต้นไม้หลังส่งถึงมือให้ลูกค้า ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1. Plant Food ทุกต้นที่รับจากเราไป จะได้รับปุ๋ยบำรุงต้นไม้ เพื่อการดูแลขั้นต้น สำหรับต้นไม้ที่คุณรัก 2. Care Guide วิธีการดูแลต้นไม้อย่างละเอียด เพื่อให้ต้นไม้อยู่ในบ้านหลังใหม่อย่างมีความสุข 3. Leaf Care เราบำรุงปุ๋ยใบให้กับต้นไม้ทุก ๆ ต้น เพื่อให้แข็งแรงที่สุดก่อนส่งต่อให้เจ้าของคนใหม่ 4. Always Clean ก่อนจัดส่งเราทำความสะอาดใบและกระถางให้พร้อมวางในบ้านคุณอย่างสวยงาม 5. Free Clay Pebbles and Plant Tray เพราะความสะดวกของลูกค้าคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ เราส่งต้นไม้ทุกต้นให้ฟรี พร้อมมวลดินเผาแต่งหน้าดินและจานรองฟรี ลดเวลาในการหาซื้ออุปกรณ์พื้นฐานเพิ่ม และ 6. Plant’s friend ให้คำแนะนำ และช่วยดูแลต้นไม้พร้อมส่งยาบำรุงให้เมื่อต้นไม้ป่วย


คุณปุยบอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราทำมาโดยเสมอพัฒนาทีละเล็กละน้อยเพราะเราไม่ได้เพียงอยากส่งต่อต้นไม้แต่อยากส่งต่อความสุขผ่านพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน



เริ่มต้นอย่างไร? กับมือใหม่หัดปลูก

สำหรับนักปลูกมือเก่าถือว่ามีประสบการณ์มากันบ้างแล้วไม่มากก็น้อย กับการลงสนามปลูกต้นไม้จริง ๆ แต่สำหรับนักปลูกมือใหม่บางคนที่เพิ่งเข้าวงการ ก็อาจยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรกับการเลือกต้นไม้ การเลือกที่วาง และการดูแลรักษา หรือบางคนตัดสินใจเลือกมาแล้วว่าชอบต้นนี้ แต่กลับมาดูอีกทีน้องต้นไม้กลับแห้งเหี่ยวเฉา แล้วจากเราไปภายในไม่กี่วัน เราได้ถามคำถามนี้ไปกับคุณปุยว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีกับมือใหม่หัดปลูก และได้คำแนะนำมาว่า

พี่มองว่าให้ลองซื้อต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายมาปลูกไว้ที่บ้านก่อน เพราะว่าถ้าเราซื้อต้นยากไปเลยต้นแรกที่เราเลี้ยงแล้วตายก็จะหมดกำลังใจ แล้วอาจจะทำให้เราไม่อยากซื้อมาอีก หรืออาจมีมุมมองว่าตัวเองเป็นคนที่ปลูกต้นไม้ไม่ขึ้น แต่จริง ๆ แล้วต้นไม้ต้นนั้นอาจจะยากไปสำหรับการเริ่มต้น อาจจะลองดูเป็นต้นลิ้นมังกร หรือมอนสเตร่าก่อน เพราะเป็นต้นที่ปลูกง่ายเมื่อต้นแรกรอดแล้ว เขาก็จะมีกำลังใจในการค่อย ๆ อัพเลเวลปลูกต้นต่อ ๆ ไป

พอผ่านจุดเริ่มต้นจากการปลูกต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายแล้ว จากนั้นก็สามารถขยับขยายระดับการปลูกต้นไม้ไปอีกระดับหนึ่ง คุณปุยยกตัวอย่างต้นไม้อื่น ๆ ในร้านว่ามีต้นอะไรที่น่าปลูกอีกบ้าง เช่น ยางอินดีย จุดเด่นอยู่ที่ใบสีเขียวเข้มออกดำ แนะนำให้วางริมหน้าต่างที่แสงเข้าถึงจะเติบโตได้ดี เสน่ห์จันทร์แดง ต้นไม้ทรงสูง ไม้ใบสวยลายเส้นชัด เป็นไม้ในร่มหรือแดดร่ำไร และไทรใบสัก ต้นไม้ทรงสูง ใบใหญ่ แต่จะอ่อนไหวกับอุณหภูมิ ต้องใช้เวลาปรับตัว ถือว่าเลี้ยงค่อนข้างยาก 

นอกจากความชอบส่วนตัวแล้ว การเลือกต้นไม้โดยมองระดับความยากง่ายในการปลูก หรือมองข้อจำกัดของการเอาใจใส่ที่เรามี ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้นักปลูกไม่รู้สึกกดดัน ไม่มองว่าเป็นภาระ แถมยังรู้สึกสนุกและภูมิใจไปกับการดูแลเจ้าใบเขียวนี้ให้เติบโตต่อไป


อนาคตของการปลูกต้นไม้กับโอกาสที่ดีของการขยายพื้นที่สีเขียว

ตอนนี้กระแสการปลูกต้นไม้เริ่มลดลงเพราะสังคมเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ผู้คนกลับไปทำงาน แม้จะมีคนจำนวนหนึ่งที่ยังซื้ออยู่ แต่ก็ไม่มากเท่าช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด สิ่งที่น่าสนใจคือ พอกระแสการปลูกต้นไม้ลดลงกลับกลายเป็นว่าผู้บริโภคที่เหลืออยู่นั้นก็คือ คนที่รักต้นไม้จริง ๆ แสดงให้เห็นว่ายังมีคนจำนวนหนึ่งที่ปลูกต้นไม้เพียงฉาบฉวย เพียงแค่ตามกระแสสังคมเท่านั้น แต่พอหมดกระแสก็ไม่ได้สนใจที่จะปลูกต่อไป ความยั่งยืนของการสร้างพื้นที่สีเขียวก็หายไป 

“ตอนนี้หลาย ๆ คนอาจชอบต้นไม้ด้วยความที่กระแสแรง แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งกระแสความนิยมของการปลูกต้นไม้ซาลงไป ก็ยังอยากให้ดูแลต้นไม้ที่ซื้อมาต่อไปให้เติบโตสวยงาม อย่าทิ้งขว้างเขาอย่างนั้น เหมือนฝากให้ดูแลพื้นที่สีเขียวต่อไปให้กลายเป็นความยั่งยืนที่แท้จริงเพราะต้นไม้เขาคือความคลาสสิก ไม่ว่ายุคสมัยไหนเค้าก็จะอยู่กับเราไปเรื่อย ๆ”

แน่นอนว่าพื้นที่สีเขียวเป็นสิ่งที่สังคมไทยกำลังแสวงหา เพราะด้วยปัญหาต่าง ๆ ในเมืองกรุง ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติด ฝุ่นละออง หรือโลกร้อน การมีพื้นที่สีเขียวถือเป็นหมุดหมายที่ดีที่จะทำให้คนในเมืองได้มีพื้นที่หายใจหายคอ โดยการสร้างพื้นที่สีเขียวเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการปลูกต้นไม้ในพื้นที่เล็ก ๆ อย่างในบ้าน หรือในที่ทำงาน โดยคุณปุยมีมุมมองว่า

หนึ่งคือเรื่องมลภาวะที่มันจะดีขึ้น แทนที่เด็กรุ่นใหม่ เด็กน้อย หรือครอบครัวในวันหยุดพักผ่อนเขาจะเดินเข้าห้างอย่างเดียว แต่ถ้ากทม. สนใจที่จะสร้างพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้มีมากขึ้นกว่าเดิม เด็กรุ่นใหม่ก็จะมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมได้รับอากาศดี ๆ แล้วก็จะมีจิตสำนึกที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รักสิ่งแวดล้อม และช่วยส่งเสริมเด็กรุ่นต่อ ๆ ไปด้วย


ช่องทางการติดตาม:
IG: Grab Grow Green
FB: GrabGrowGreen


อ้างอิง

  • เนื้อหาและภาพประกอบจากเพจ www.facebook.com/GrabGrowGreen
  • ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์. เมื่อการปลูกต้นไม้กลายเป็นเทรนด์ เราสรุปทุกเรื่องที่นักปลูกมือใหม่ต้องรู้. www.gqthailand.com