Kind People

“Dark Witch Bambi” แม่มดยุค 2022



“คุณเชื่อเรื่องแม่มดหรือเปล่า?”


นิยามคำว่า “แม่มด” ในบทความนี้อาจไม่ใช่แม่มดแบบในหนังชื่อดังอย่างแฮรี่พอตเตอร์ไม่ได้มีไม้กายสิทธิ์ไม่มีหมวกทรงแหลมไม่มีไม้กวาดไว้ขี่ไม่มีจมูกคดงอไม่มีแมวดำเป็นสัตว์เลี้ยงและไม่มีการเต้นรำรอบกองไฟในวันพระจันทร์เต็มดวงแต่เป็นบุคคลที่มีความหลงใหลในประเพณีและพิธีกรรมไสยศาสตร์บางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้มากนักเพราะความเชื่อในศาสตร์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลหากจะอธิบายให้เข้าใจตามสไตล์คนไทยอาจเปรียบได้กับ “หมอผี” ก็เป็นได้

ในบทความนี้ KiNd จะพาไปทำความรู้จัก Bambi หรือ แบมบี้ เหลียง แม่มดชาวสิงคโปร์ว่าเธอคือใคร ฉายาแม่มดแห่งยุคได้มาอย่างไร มาติดตามกันได้เลย




ความเชื่อคือเรื่องส่วนบุคคล


สำหรับคนไทย เรียกได้ว่ามีความเชื่อในศาสตร์นี้ค่อนข้างมาก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมและประเพณีที่มีมาแต่อดีต แม้ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีต่าง ๆ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญแล้วก็ตาม ทว่าความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงอยู่เช่นเดิม เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา 

แล้วในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่าง “สิงคโปร์” มีความเชื่อในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด? 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ในประเทศสิงคโปร์ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ก็ย่อมมีความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน บางคนไม่เชื่อ ไม่สนใจ ขณะที่บางคนกลับเชื่ออย่างสุดโต่ง จนนำมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต เช่นเดียวกับสาวชาวสิงคโปร์ “แบมบี้ เหลียง” ที่ประกาศตนว่าเธอหลงใหลในโลกเวทย์มนต์ และมีญาณทิพย์ที่ช่วยให้ผู้คนสมปรารถนาได้



แม่มดแห่งยุค


ในอดีตคำว่า “แม่มด” เป็นเสมือนคำสาป เมื่อกว่า 300 ปีที่แล้วในประเทศสก็อตแลนด์ มีหญิงชาวสก็อตชื่อ ลิเลียส เอดี ต้องโทษฐานเป็นแม่มด และจบชีวิตลงในคุกเมื่อปี ค.ศ. 1704 โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเธอถูกทรมาน และเป็นไปได้ว่าเธออาจชิงฆ่าตัวตายก่อนที่จะถูกนำไปเผาทั้งเป็น หลังจากเธอรับสารภาพในความผิดฐานเป็นแม่มดและสมสู่กับปีศาจ 


แบมบี้ เหลียง หรือที่รู้จักกันดีในนาม “Dark Witch Bambi” เล่าว่า ต้นตระกูลฝั่งแม่โดยเฉพาะผู้หญิงทุกคนสามารถมองเห็นวิญญาณได้ รวมถึงเธอด้วย แม้ทุกคนจะปฏิบัติตามศาสนาอย่างเคร่งครัด โดยหวังว่าจะสามารถขับไล่สิ่งเหล่านี้ออกไปได้ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างยังคงอยู่เช่นเดิม เธอจึงเริ่มยอมรับและทำความเข้าใจความสามารถนี้แทน และได้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส จนในที่สุดเธอก็ใช้ความสามารถนี้ประโยชน์ให้ตนเอง และก้าวเข้าสู่อาชีพแม่มดในวัยเพียง 28 ปี 


เธอเริ่มต้นจากการอ่านไพ่ทาโรต์ทำนายดวง เมื่อเริ่มเป็นที่รู้จักจึงได้ตัดสินใจเปิดร้านโดยใช้ชื่อว่า The Love Witch ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Sim Lim Square โดยภายในร้านมีการจำหน่ายเครื่องรางของขลังมากมาย อาทิ ตุ๊กตาปลุกเสก เทียนเสน่ห์รูปอวัยวะเพศ น้ำมันเสน่ห์ รวมถึงหนังสือคาถาต่าง ๆ โดยสินค้าที่ขายดีที่สุดคือ น้ำมันเสน่ห์ ที่มีชื่อว่า Make You Love Me, Lust for Me Only และ Break Up ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 35 SGD หรือมีราว 868 บาทไทย โดยมียอดขายสูงถึง 2,000 ชิ้นต่อปี ในส่วนของบริการด้านอื่น ๆ ก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การอ่านไพ่ทาโรต์ การทำเสน่ห์ หรือแม้กระทั่งการคุยกับคนตาย และการสาปแช่งคนเป็นก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่มักเป็นหญิงสาว แน่นอนว่าเรื่องที่เธอถูกขอให้ช่วยมากที่สุดก็คือเรื่องความรักนั่นเอง 


บ่อยครั้งยังมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับงานของเธออยู่เช่นกัน มีลูกค้าบางรายเข้าใจว่าเธอสามารถเสกทุกอย่างได้ ซึ่งความจริงแล้วไม่มีผู้ใดทำได้ เธอเป็นเพียงผู้ที่สื่อสารกับเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้สมปรารถนาได้เท่านั้น 

ฉันสามารถดูอดีตและทำนายอนาคตได้แต่ไม่สามารถเสกเงินหรือเสกให้ใครรวยได้

แบมบี้ เหลียง




ศาสตร์แห่งแม่มดหรือแค่ธุรกิจ? 


เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนคนก็ย่อมเปลี่ยน แบมบี้ เหลียง เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่ทำให้ได้เห็นถึงการนำธุรกิจมาผูกกับความเชื่อ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างใด ซึ่งทำให้เธอมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 70,000 SGD หรือราว 1,735,094 บาทไทย ซึ่งรายได้โดยส่วนใหญ่มาจากการจำหน่ายเครื่องรางของขลังภายในร้าน อาจเรียกได้ว่าเธอเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

ชีวิตของ แบมบี้ เหลียง เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ แล้วคุณล่ะ เชื่อในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด… 



ที่มา


เรื่องโดย

ภาพโดย