Kind Icon

คุณยายนักวิ่ง วัย 86 ปี ที่เข้ามาเปลี่ยนภาพจำของบาบุชก้าในรัสเซีย ให้กลายเป็นคุณยายผู้กระฉับกระเฉง

“สลัดภาพผ้ากันเปื้อนกับถาดอบขนมทิ้งไปให้หมด!”

Klara Bogatova วัย 86 ปี ผู้ได้รับฉายา “นักวิ่งอายุมากที่สุดในรัสเซีย” เส้นทางของคุณยายนักวิ่งที่กว่าจะเข้าสู่วงการก็มีอายุ 69 ปีเข้าไปแล้ว ระยะเวลาเกือบยี่สิบปีที่เธอยังคงออกมาวิ่งอย่างสม่ำเสมอแม้จะมีอายุเพิ่มขึ้นทุกปี และสิ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นคือความมีวินัยของเธอ โดยเธอจะต้องออกมาวิ่งในทุก ๆ วัน และต้องมีอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งที่จะต้องวิ่งให้ครบ 10 กิโลเมตร เพื่อสลัดความคิดฟุ้งซ่านในวัยชรา


ภาพที่ปรากฏตรงหน้าฉันตอนนี้เต็มไปด้วยบรรดานักวิ่งมากหน้าหลายตาทั้งชายและหญิง บนแผ่นหลังของพวกเขามีตัวเลขบอกลำดับแปะเด่นหราอยู่กลางหลัง ทุกคนกำลังเหยียดแขนออกไปซ้ายทีขวาที พลางสะบัดแข้งขาไปมาเพื่อให้ร่างกายปล่อยไอความร้อนออกมาต่อสู้กับลมหนาวแรกของรัสเซีย ขณะที่ไอน้ำก็กำลังเกาะกุมผมของพวกเขาจนเปียกไปหมด

แม้บรรยากาศเช้านี้จะไม่สดชื่นมากนัก และยังมีลมหนาวพัดผ่านมาไม่หยุดหย่อน พื้นถนนก็เต็มไปด้วยร่องรอยการละลายของหิมะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจล้มเลิกความตั้งใจของเหล่านักวิ่งที่มารวมตัวกันในเช้านี้ไปได้ ฉันสูดกลิ่นป่าสนเข้าไปเต็มปอดเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถูกรายล้อมไปด้วยเพื่อนนักวิ่งผู้แปลกหน้าไปเสียแล้ว

“พร้อมวิ่งกันแล้วยัง?!” หนึ่งในกรรมการตะโกนถามออกมาสุดเสียง พลันหลังสิ้นเสียงกรรมการ ทั่วทั้งสนามก็ดังกระหึ่มไปด้วยเสียงของเหล่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากทุกเพศทุกวัย ฉันสัมผัสได้ถึงพลังที่เอ่อล้นออกมาของเหล่านักวิ่งรอบกายฉันได้เป็นอย่างดี พวกเขาพร้อมยิ่งกว่าพร้อมเสียอีก!


แต่สิ่งที่สะดุดตาฉันคือ ผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่ง ซึ่งคาดคะเนจากภายนอกแล้วส่วนสูงเธอคงไม่เกิน 150 เซนติเมตร ค่อย ๆ เดินแทรกแถวเข้ามาด้านหน้า ใบหน้าของเธอปรากฏร่องรอยแห่งกาลเวลาที่เด่นชัด ผมดอกสีเลาถูกเก็บไว้เป็นอย่างดีใต้หมวกและโพกผ้าคาดหัวที่พร้อมมอบความอบอุ่นให้แก่เธอในระหว่างการแข่งขัน

“ยังเด็กอยู่เลยนี่ มาวิ่งด้วยกันไหมล่ะ?” เธอถามฉันด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ทำเอาฉันทึ่งไม่น้อยเพราะเธอดูพร้อมกับการวิ่งครั้งนี้จริง ๆ ขณะที่ร่างกายของฉันกำลังสั่นเทาจากลมหนาวไม่หยุด ฉันไม่ได้ส่งเสียงตอบกลับไปหรอก ได้แต่พยักหน้าเบา ๆ ตอบกลับไปเท่านั้น ตอนนี้ในหัวของฉันนึกถึงแต่ห้องอุ่น ๆ กับภาพตัวฉันที่กำลังนั่งซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนา ๆ พร้อมจิบชาร้อนสักแก้วเท่านั้น

หลังจากกรรมการเป่านกหวีด Klara ออกตัววิ่งเป็นกลุ่มแรก ๆ แต่หลังจากสามสิบนาทีผ่านไป เธอก็ตกมาอยู่ท้ายแถวเสียแล้ว แต่ฉันก็ไม่เห็นถึงความกังวลใจของเธอแต่อย่างใด ในทางกลับกันบนในหน้าของเธอกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขณะที่เธอพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางสูงวัยคนอื่น ๆ ไปด้วยตลอดทาง

Klara Bogatova บอกว่าตอนนี้เธอไม่ได้สนใจรางวัลหรืออะไรทั้งนั้น แต่ที่เธอออกมาวิ่งก็เพื่อความสุขของตัวเอง ซึ่งตลอดระยะเวลา 15 ปี ต้องบอกเลยว่าเธอจัดระเบียบในชีวิตได้ดีเลยล่ะ เพราะเธอบอกฉันว่า เธอจะต้องออกมาวิ่งในทุก ๆ วัน และต้องมีสัปดาห์ละครั้งที่จะต้องวิ่งในระยะทาง 10 กิโลเมตร และเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับอายุ 86 ปีของเธอแล้ว ตำแหน่งนักวิ่งที่อายุมากที่สุดในรัสเซียก็ตกเป็นของเธอได้ไม่ยาก


แรงบันดาลใจในการวิ่งที่พร้อมส่งต่อถึงบาบุชก้าทั่วสารทิศ

Klara เชื่อว่าในไม่ช้า ภาพจำของคนภายนอกที่มีต่อบาบุชก้าหรือคุณยายชาวรัสเซียจะเปลี่ยนไป เธอจะสลัดคราบคุณยายที่มักผูกผ้ากันเปื้อนและวุ่นอยู่แต่ในครัวเพื่ออบขนมพายเตรียมต้อนรับหลาน ๆ ให้กลายเป็นคุณยายผู้กระฉับกระเฉง และนี่คือสิ่งที่เธออยากให้คนในสังคมเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย แทนที่จะหมกตัวอยู่แต่ในบ้านเฉย ๆ 

“ในอนาคตภาพจำของคุณยายชาวรัสเซียจะเปลี่ยนไป คุณจะเห็นภาพลักษณ์ใหม่ที่เป็นเหมือนฉัน ผู้คนจะหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องนั่งถักถุงเท้าขายตามเมโทรเพื่อหารายได้ไม่กี่เพนนีอีกต่อไป” 


“ฉันไม่เคยชอบเล่นกีฬาเลย สมัยที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยวิ่งแค่ 3 กม. ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว” ก่อนจะเริ่มวิ่งในวันนี้ Klara เล่าว่า เธอยังจำตอนรับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งก่อนได้อยู่เลย เป็นภาพที่ทำให้เธอมีความสุขเสียยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ทั้งเสียงปรบมือ เสียงผู้คน บรรยากาศภายในสนาม ทุกอย่างรอบตัวมันดีเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สายนักล่ารางวัล แต่ตอนนี้ในบ้านของเธอก็มีกล่องที่อัดแน่นไปด้วยเหรียญรางวัล และประกาศนียบัตรมากถึงสองกล่องเข้าไปแล้ว

Klara เกิดที่เมืองนิซนีนอฟโกรอด (เมืองในประเทศรัสเซีย) แต่ส่วนใหญ่เธอกับสามีใช้ชีวิตอยู่ที่อุซเบกิสถานเสียมากกว่า เธอย้ายกลับมามอสโกตามลูกสาวตอนอายุ 69 ปี โดยจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการนักวิ่งของเธอนั้น บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่เรียบง่ายมาก ๆ ในระหว่างทางเดินกลับบ้านเธอบังเอิญเจอประกาศโฆษณาของชมรมวิ่ง หลังจากนั้นเธอก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะเข้าร่วมแข่งขันอย่างไม่ลังเล 

“ฉันอยากลดน้ำหนักลงสักสองสามกิโล ถึงฉันจะไม่เคยอ้วนเลยก็เถอะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “ตอนลงวิ่งแข่งครั้งแรก ฉันได้ตั้งที่สองเลยนะ พวกเขามอบถ้วยรางวัลประดับคริสตัลให้ฉันด้วย ตอนที่ถือมันอยู่ในมือฉันก็รู้ได้ทันทีว่า ‘ฉันจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ ที่บ้านอีกต่อไป’ ฉันจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้คุ้มค่าที่สุด” หลังจบประโยค เธอก็เร่งความเร็วไปวิ่งรวมกลุ่มกับนักวิ่งรุ่นน้อง ปล่อยให้ฉันจมอยู่ในความคิดที่เธอเพิ่งเผยออกมา

“เมื่อก่อนฉันเคยวิ่งได้ถึง 20 กิโลเลยนะ แต่ตอนนี้ แค่ 10 กิโลก็เกือบเกินกำลังฉันแล้ว” เธอกล่าว “ฉันจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่กำลังวิ่ง จู่ ๆ ก็มีเด็กหนุ่มวิ่งสวนมาแล้วตะโกนว่า ‘เจ๋งไปเลยฮะ คุณยาย!’ ทำเอาฉันอมยิ้มไม่หยุดไปเลยทั้งวัน แต่ยังไม่หมดเท่านั้นนะ อีกครั้งก็ตอนที่นายทหารนายหนึ่งวิ่งมาหาฉันแล้วบอกว่า เขาขอเอาเรื่องของฉันไปเล่าให้ทหารในหน่วยฟังได้ไหม แล้วเขาก็บอกอีกว่าจะยกให้ฉันเป็นไอดอลของทหารในหน่วยเขาด้วย” Klara กล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจ


เส้นทางการวิ่ง

ก่อนการแข่งขัน Klara มักจะวิ่งเหยาะ ๆ ไปรอบสนาม แม้จะเป็นการวิ่งอย่างช้า ๆ แต่ทุกย่างก้าวของเธอกลับสง่างามไม่ต่างจากนางแบบที่กำลังเดินอยู่บนรันเวย์ และเป็นเวลากว่าหกปีแล้วที่เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันประจำปีที่เมืองเซเลโนกราด ตั้งอยู่นอกกรุงมอสโก ซึ่งในวันแข่งขันจะต้องมีฝนไม่ก็หิมะตกลงมาทุกครั้งไป

แต่เส้นทางการวิ่งในมอสโกเริ่มทำให้ Klara เบื่อ เธอเลยตามหาสนามวิ่งต่อไปให้ไกลขึ้นอีกหน่อย 

“ฉันมาเจอสนามแข่งวิ่งครั้งต่อไปที่ซุสดัล ตอนแข่งวิ่งที่นั่นฉันจำได้ว่ารองเท้ามันรัดเท้าฉันจนแน่นไปหมดแต่พอเริ่มวิ่งไปเรื่อย ๆ เท้าฉันก็รู้สึกสบายมากขึ้น ซึ่งต่อมาในเดือนสิงหาคมทางสมาคมก็ได้จัดงานวิ่งขึ้นอีกครั้ง แต่ในสนามนี้คุณจะต้องว่ายน้ำเป็นระยะทาง 1 กม. และวิ่งอีก 4-5 กม. ฟังดูน่าสนุกใช่ไหมล่ะ แต่กว่าคุณจะรู้ตัวว่าร่างกายเกือบถึงขีดจำกัด ก็ตอนที่ก้าวออกจากสระว่ายน้ำแล้วมาเปลี่ยนเป็นรองเท้าวิ่ง ในตอนนี้เองฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่าร่างกายกำลังสั่นไม่หยุด แม้แต่แรงจะผูกเชือกรองเท้ายังไม่มีเลย” เธอเล่า “แต่ฉันชอบนะ อะไรที่มันท้าทายแบบนี้”

เธอเลือกสนามแข่งนอกประเทศครั้งสุดท้ายที่ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส “การเข้าร่วมแข่งขันที่ลิสบอนมีราคาสูงเลยทีเดียว ตอนนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 รูเบิล (ประมาณ 2,500 บาท) แต่บรรยากาศที่นั่นต่างกันลิบลับกับที่มอสโก ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่อบอุ่น พื้นสนามก็ไม่มีร่องรอยของหิมะ และยังมีแสดงแดดอ่อน ๆ สาดส่องลงมาสัมผัสร่างกาย รอบข้างก็มีดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว เมื่อเงยหน้ามองไปที่อัฒจรรย์ก็ทำเอาฉันตะลึงไปไม่น้อย บนนั้นมีคนจุอยู่ประมาณ 20,000 คน พร้อมส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้กำลังใจผู้เข้าร่วมแข่งขันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” Klara เล่าด้วยดวงตาเป็นประกาย

Photo Credit: Anastasia Karagodina


ซุปเปอร์ยาย

ลูกสาวของ Klara ซัพพอร์ตเธอเป็นอย่างดีไม่ว่าเธออยากทำอะไร โดยก่อนหน้านี้เธอกับลูกชายตัวน้อยมักออกไปวิ่งกับคุณยายอยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ยาย-หลานก็ว่าได้ แต่พอเขาเข้าสู่วัยรุ่น เขาก็หยุดวิ่งไป 

“ฉันก็ไม่ได้อยากกล่าวโทษใครหรืออะไรหรอกนะ แต่พอเขามีคอมพิวเตอร์เวลาว่างทั้งหมดที่เคยมีก็ถูกมันเอาไปหมด ที่โรงเรียนของหลานฉันก็มีสอนวิชาพละเหมือนกัน แต่เหมือนว่าพวกเขาสอนให้เอาชนะกันเองมากกว่า ไม่ได้สอนให้เด็ก ๆ มีความสุขกับการวิ่ง” เธอบ่นอุบ

แต่คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะบ่นมันออกมา เพราะดูเหมือนว่า Klara ชอบวิ่งกับคนหนุ่มสาวมากกว่า 

“พวกเขาไม่ได้พูดถึงสภาพร่างกายหรือโรคภัยไข้เจ็บของฉันหรือถามว่าคุณวิ่งมานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งฉันชอบนะ ฉันชอบความจริงที่ว่าเพียงแค่คุณมีความปรารถนาที่จะวิ่ง คุณก็แค่ออกมาวิ่งตราบเท่าที่ขาสองข้างของคุณยังก้าวไหว” Klara อธิบาย


หลังจากวิ่งไปได้ระยะหนึ่ง ฉันเพิ่งสังเกตว่าคลาดกับ Klara ไปเสียแล้ว หลังจากผ่านไป 30 นาที ช่างภาพและนักข่าวก็ปั่นจักรยานมาบอกฉันว่านักวิ่งซุปเปอร์แกรนด์คนแรกได้เข้าสู่เส้นชัยไปเมื่อหลายนาทีก่อน แต่ฉันก็ยังไม่เห็นวี่แววของ Klara เลย


“เด็กน้อยที่น่าสงสาร เธอหนาวล่ะสิ อากาศหน้าหนาวของรัสเซียมันก็เป็นแบบนี้แหละ ฉันว่าเธอน่าจะลองไปวิ่งกับฉันที่นิซนีนอฟโกรอดตอนเดือนพฤษภาคมดูนะ ฉันว่าเธอน่าจะชอบ” เธอชวนฉันหลังจากเราวิ่งมาเจอกันระหว่างทาง พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม (ซึ่งสำหรับฉันมันค่อนข้างแอบมีเลศนัยหน่อย ๆ) และฉันคงไม่มีทางเลือกมากนัก หากอยากจะเป็นเหมือนเธอตอนแก่ตัวลง

สงสัยว่าฉันต้องรับคำเชิญนี้เสียแล้วล่ะ…


ที่มา


เรื่องโดย