การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้สูงอายุ โดยเฉพาะทวีปเอเชียคาดการณ์ว่าจะมีประชากรสูงวัยมากที่สุดในโลก โดยสัดส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปในทวีปเอเชียจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเรื่องสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
จากงานสัมมนาออนไลน์ของ U.S. Dairy Export Council (USDEC) ที่เน้นความสำคัญของงานวิจัยและแนวคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับโปรตีน ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เวย์ และมุมมองเกี่ยวกับสุขภาพ ได้กล่าวถึงประเด็นเรื่อง “โปรตีนจากนม” ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในแผนโภชนาการสำหรับสังคมผู้สูงวัยในอนาคต
โดยสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 สำหรับผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงผู้ที่อยู่ในแวดวงอาหารและโภชนาการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและนวัตกรรมอาหารจากสิงคโปร์และญี่ปุ่น ได้อภิปรายถึงโอกาสและขั้นตอนเชิงรุกที่จะลดช่องว่างความแตกต่าง ระหว่างความตั้งใจและการปฏิบัติในการดูแลสุขภาพ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย ท่ามกลางการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมุ่งเน้นที่ตลาดประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีความแตกต่างและหลากหลายทางรสชาติอาหารและวัฒนธรรมเป็นหลัก
เพิ่มความตระหนักรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับประโยชน์ของโปรตีน
แม้ว่ากว่าร้อยละ 80 ของผู้ตอบแบบสำรวจในการศึกษาของ USDEC จะเห็นด้วยว่าโปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างกล้ามเนื้อ การมีสุขภาพแข็งแรง และลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ แต่หลายคนยังคงสับสนเกี่ยวกับความต้องการโปรตีนของร่างกายในเชิงการเปลี่ยนแปลงของความต้องการโปรตีนที่เปลี่ยนไปตามช่วงอายุ รวมถึงความแตกต่างทางโภชนาการระหว่างโปรตีนจากพืช โปรตีนจากสัตว์ และโปรตีนจากนม
ดร.ซาโตชิ ฟูจิตะ ศาสตราจารย์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ มหาวิทยาลัยริทสุเมอิกัน ประเทศญี่ปุ่น ตอบคำถามเหล่านี้ด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เขาอธิบายถึงความสำคัญของการบริโภคโปรตีนอย่างเพียงพอ โดยแบ่งสัดส่วนการรับประทานเท่า ๆ กันตลอดวันในแต่ละมื้อทั้งอาหารเช้า เที่ยง และเย็น ในปริมาณ 20 – 30 กรัม หรือ 0.4 กรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมต่อวัน เพื่อช่วยป้องกันภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย
เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของคุณภาพของโปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ประกอบของ “กรดอะมิโนจำเป็น” และบทบาทสำคัญของกรดอะมิโนจำเป็น หรือกรดอะมิโนลิวซีน โดยหากพิจารณาสัดส่วนของกรดอะมิโนจำเป็นต่อโปรตีนทั้งหมดในอาหารแต่ละประเภท เวย์โปรตีนมีสัดส่วนกรดอะมิโนสูงสุดที่ร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับแหล่งโปรตีนอื่นจากสัตว์และพืช เช่น เนื้อวัว (ร้อยละ 44) ปลาหิมะ (ร้อยละ 40) ถั่วเหลือง (ร้อยละ 38) ถั่วลันเตา (ร้อยละ 37) และข้าวสาลี (ร้อยละ 30) นอกจากนี้ เวย์โปรตีนยังมีปริมาณกรดอะมิโนลิวซีนซึ่งเป็นโมเลกุลที่กระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนและซ่อมแซมกล้ามเนื้อสูงเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย
อีกหนึ่งประเด็นที่วิทยากรได้หยิบยกขึ้นมาพูดระหว่างการสัมมนาออนไลน์คือ ความไม่สมดุลของการบริโภคโปรตีนระหว่างวัน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มื้ออาหารส่วนใหญ่โดยเฉพาะมื้อเช้ามักมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ปริมาณการบริโภคโปรตีนในช่วงเริ่มต้นของวันอยู่ในระดับต่ำและเพิ่มสูงขึ้นในช่วงมื้อเย็น แทนที่จะกระจายปริมาณการบริโภคโปรตีนให้ใกล้เคียงกันตลอดทั้งวัน
การเพิ่มโปรตีนจากนมเข้าไปในมื้ออาหาร” โดยเฉพาะมื้อเช้าเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ผู้บริโภคสามารถเริ่มต้นได้เองทันที เพื่อเพิ่มปริมาณโปรตีนที่หายไปในมื้อเช้า
วิธีนี้ยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายยังคงแข็งแรงเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
ประยุกต์ให้เข้ากับอาหารจานที่คุ้นเคย
“รสชาติ” เป็นปัจจัยสำคัญควบคู่ไปกับคุณค่าทางอาหาร ที่ช่วยเพิ่มปริมาณการบริโภคโปรตีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การคิดค้นผลิตภัณฑ์และกำหนดสูตรอาหารอย่างเอาใจใส่มีความสำคัญต่อการเพิ่มปริมาณโปรตีนในอาหารและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติ กลิ่น และรสสัมผัส
Photo Credit: serveware/crateandbarred.com
“เวย์โปรตีน” มีลักษณะรสชาติและกลิ่นที่เป็นกลาง จึงเป็นส่วนประกอบที่เหมาะกับอาหารทั่วไปที่รับประทานในทุกวัน ทั้งอาหารตะวันตกหรืออาหารเอเชีย
ด้วยความพยายามในการประยุกต์คิดค้นและพัฒนาต้นแบบของ USDEC ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. CDE) ซึ่งมีครัวสาธิตการปรุงอาหารและห้องปฏิบัติการประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสของอาหารที่ทันสมัย ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในภูมิภาคสามารถเข้าเยี่ยมชมและรับแรงบันดาลใจจากข้อมูลรายการอาหารและเครื่องดื่มอันครบครัน ซึ่งล้วนอุดมไปด้วยโปรตีนและเข้ากับรสชาติของผู้คนในท้องถิ่น และมีส่วนผสมโปรตีนจากนมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผสมกลมกลืนกับทุกเมนูอาหารประจำวัน
“ความอเนกประสงค์และคุณประโยชน์ของโปรตีนจากนมทำให้เกิดการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูอาหารที่สะท้อนเอกลักษณ์ของอาหารในภูมิภาคและมอบสารอาหารโปรตีนคุณภาพในปริมาณที่มากยิ่งขึ้น การเพิ่มส่วนผสมอย่างเวย์และโปรตีนนมเข้าไปในอาหารประเภทข้าวและเส้น เช่น ผัดไทย ลักซา ข้าวผัด แกงกะหรี่ และของหวานต่าง ๆ จะช่วยสร้างความสมดุลของ ปริมาณการบริโภคโปรตีนในแต่ละมื้อ และจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่จำเป็นจากอาหารจานที่คุ้นเคยอยู่แล้ว” คุณพาวลีน ชาน ผู้จัดการบริษัท ฟู้ด แอนด์ นูทริชั่น สเปเชียลลิสต์ส จำกัด ประเทศสิงคโปร์กล่าว
เพิ่มช่องทางการเข้าถึงและทางเลือกที่มากขึ้น
การส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการทางความคิดของผู้คนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและทางเลือกในการบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน จากการศึกษา ผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ระบุว่า พวกเขายินดีที่จะจ่ายมากขึ้นสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพ อ่านข้อมูลโภชนาการก่อนการซื้อสินค้า และสนใจทดลองอาหารและรสชาติที่แปลกใหม่ โดยร้อยละ 83 ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีเวย์โปรตีนในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า
“ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโปรตีนในภาพรวมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าใน
ขณะที่มีความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาค แต่จำนวนสินค้าและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่อุดมด้วยโปรตีนนั้นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในการเข้าถึงตลาดที่กำลังเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการนำเสนออาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่อุดมด้วยโปรตีนที่ผู้บริโภคในภูมิภาคคุ้นเคย” คุณมาร์ติน เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคการประยุกต์อาหาร USDEC เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
ด้วยสถานการณ์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนวทางการบริโภครูปแบบใหม่จึงเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต ด้วยการเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโปรตีนตั้งแต่วันนี้ ทั้งในเชิงปริมาณ ประเภท และเวลาในการรับประทานโปรตีนให้เหมาะสมมาก
*เยี่ยมชม ThinkUSAdairy.org สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรตีนจากผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม คุณประโยชน์และการประยุกต์ใช้
ที่มา
- ข้อมูลจากข่าวประชาสัมพันธ์ของ The U.S. Dairy Export Council (USDEC)