“You can try to resist Try to hide from my kiss but you know but you know that you can’t fight the moonlight”
คุ้น ๆ เพลงท่อนนี้กันบ้างมั้ยเอ่ย? ถ้าใครร้องได้คล่องปรื๋อ เราคงไม่มีคำจำกัดความอะใรให้นอกจากจะบอกว่าบทความนี้ดักแก่นะจ๊ะ
หนังพาเราไปตามดูชีวิตของ “ไวโอเล็ต” (Piper Perabo) สาวเสิร์ฟพิซซ่าใสซื่อจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่ตัดสินใจจากอ้อมอกพ่อเดินทางเข้ามาในเมืองใหญ่เพื่อเดินตามความฝันของตัวเองในฐานะนักแต่งเพลง แต่ความฝันก็ต้องพังทลายลง เมื่อต้องมาเจอกับความร้ายกาจของคนในเมืองใหญ่ที่แค่เพียงสาวเจ้าแตะพื้นพสุธามหานครนิวยอร์กได้แป๊บเดียวห้องเช่าก็ถูกงัด เงินสำรองที่พอจะมีอยู่หน่อยเดียวถูกขโมยหายวับไปกับตา ดังนั้นสิ่งเดียวที่ไวโอเล็ตจะทำได้คือการหางานทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีวิตต่อไป
เธอจึงไปสมัครเป็นพนักงานชงเหล้าและเสิร์ฟในคลับชื่อว่า “Coyote Ugly” ที่คลับแห่งนี้เองที่เปลี่ยนเธอให้มีความกล้ามากขึ้น รู้ทันเมืองใหญ่มากขึ้น และได้บังเอิญเจอ “โอดอนเนล” (Adam Garcia) ชายหนุ่มรูปหล่อนัยน์ตาชวนฝันที่เข้ามาใกล้ชิด และช่วยทำลายความกลัวในใจของเธอทีละนิด ๆ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจทำให้เธอเริ่มแต่งเพลงและเดินตามความฝันที่ตั้งใจไว้
ว่ากันตามเนื้อผ้า หนัง Coyote Ugly ไม่ไช่หนังยอดเยี่ยมอะไร บทและการแสดงของดาราในเรื่องยังลักลั่นด้วยซ้ำ มันมีความไม่สุดของการแสดงปรากฏให้เห็นอยู่ทั้งเรื่อง แต่หนัง “ตลาด” เรื่องนี้มันมีองค์ประกอบความบันเทิงครบพอที่จะกลายเป็นหนังในใจหลาย ๆ คนของยุคนั้น หนังเดินเรื่องได้ฉับไวไม่เยิ่นเย้อ มีฉากเมโลดรามาประโลมโลกให้ยิ้มประปราย ที่เซอร์ไพรส์คนดูพอสมควร คือ มีซุปเปอร์โมเดลอย่าง Tyra Banks ร่วมแสดงร่วมเต้นแบบมัน ๆ ในหนัง
แถมเพลงประกอบยังติดหูมากซะด้วย โดยเฉพาะเพลง Can’t Fight the Moonlight ที่ได้แจ้งเกิด Leann Rimes นักร้องสายคันทรีชื่อดังฝั่งอเมริกา (ที่ดังในประเทศมานานแล้ว) ให้เป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมเพลง POP กระแสหลักของโลกมากขึ้น และเพลงนี้ก็ยังคงติดหูชาวบ้านชาวช่องมาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีอีกเพลงบัลลาดที่ Leann Rimes ถ่ายทอดอารมณ์ได้ไพเราะมาก คือ Please Remember รวมทั้งเพลงสนุก ๆ อีกหลายเพลงที่อัดแน่นในซีดี เรียกได้ว่าเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดัน Leann Rimes ก็ว่าได้
Photo Credit: www.maxim.com
ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ฮิตมั้ย… ก็ต้องตอบว่าในระดับโลกก็เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ดังกลางๆ แต่สำหรับเมืองไทย Coyote Ugly หรือชื่อไทย “บาร์ห้าว สาวฮอต” มันคือปรากฏการณ์ความดังที่ดังมาก ดังถึงขนาดทำให้มีร้านที่มีโคโยตี้เต้นๆแบบในหนังโผล่มาหลายร้านและคำว่า “โคโยตี้” ก็ได้กลายเป็นคำทับศัพท์เฉพาะแบบไทยๆที่หมายถึงการเต้นประกอบเพลงด้วยลีลายั่วยวน (ดร. นววรรณพันธุเมธา. 2563. คลังคำ. หน้า 233) ถ้าอยากรู้ว่าเต้นแบบไหนก็ลองไปหามาดู
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของ Coyote Ugly คือ คอสตูมของนักแสดงในเรื่องที่ ได้ Marlene Stewart ซึ่งสร้างชื่อเสียงจากการร่วมออกแบบชุดสำหรับคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกอย่าง Madonna, Cher, และ Janet Jackson โดย Marlene Stewart ได้ดัดแปลงและผสมผสานความเป็นร็อคแอนด์โรลล์กับฮิปปี้เข้ามาในเสื้อผ้าของนักแสดงแต่ละคน เพื่อสะท้อนคาแรกเตอร์ตัวละครที่ต่างกันไป แม้แต่นิตยสาร Vogue เองยังกล่าวว่า ถึงแฟชั่นในหนังเรื่องนี้จะล่วงเลยมาตั้ง 20 ปี แล้ว แต่สไตล์เซ็กซี่แบบนี้ยังดูสดอยู่เสมอ และถ้าผู้หญิงสักคนจะลุกขึ้นมาแต่งตัวเปรี้ยว ๆ สนุก ๆ บ้าง ลุคในแบบ Coyote Ugly ก็น่าสนใจไม่น้อย
อีกประเด็นที่ต้องชมในหนังเรื่องนี้ คือ การส่งเสริมภาพลักษณ์ของคนทำงานกลางคืน เพราะสาวโคโยตี้ที่บาร์แห่งนี้ตั้งกฎให้ตัวเองชัดเจนว่า พวกเธอคือ “เอนเตอร์เทนเนอร์” ที่ทำหน้าที่ชงเหล้าและเต้นไปตามจังหวะดนตรี พวกเธอสวย พวกเธอเซ็กซี่ แต่ไม่ขายตัว เพราะชีวิตกลางคืนไม่จำเป็นต้องจบลงที่จุดนั้นเสมอไป งานกลางคืนก็เป็นอีกแค่อาชีพหนึ่งที่เป็นหนทางเลี้ยงตัวให้รอด เพื่อพาตัวเองไปถึงฝั่งฝัน ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด ขอเพียงเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และกล้าที่จะต่อสู้ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่เราต้องการ อาจต้องล้มบ้างลุกบ้างตามประสามนุษย์ที่ต้องเจอบททดสอบของชีวิต แต่เราก็ยังสามารถสร้างกำลังใจให้ตัวเองให้กล้าที่จะคว้ามันให้ได้ แค่นี้ชีวิตแสนสั้นของเราก็เปี่ยมไปด้วยความหมายแล้ว
อ้างอิง
- Raise a Glass to the 20th Anniversary of Coyote Ugly. www.eonline.com
- 20 Years On, Coyote Ugly’s Wild Style Still Feels Fresh. www.vogue.com