Kind Eyes

ครบรอบ 20 ปีหนัง COYOTE UGLY ที่มาของคำว่าสาว “โคโยตี้” ในประเทศไทย

“You can try to resist Try to hide from my kiss but you know but you know that you can’t fight the moonlight”

คุ้น ๆ เพลงท่อนนี้กันบ้างมั้ยเอ่ย? ถ้าใครร้องได้คล่องปรื๋อ เราคงไม่มีคำจำกัดความอะใรให้นอกจากจะบอกว่าบทความนี้ดักแก่นะจ๊ะ


หนังพาเราไปตามดูชีวิตของ “ไวโอเล็ต” (Piper Perabo) สาวเสิร์ฟพิซซ่าใสซื่อจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่ตัดสินใจจากอ้อมอกพ่อเดินทางเข้ามาในเมืองใหญ่เพื่อเดินตามความฝันของตัวเองในฐานะนักแต่งเพลง แต่ความฝันก็ต้องพังทลายลง เมื่อต้องมาเจอกับความร้ายกาจของคนในเมืองใหญ่ที่แค่เพียงสาวเจ้าแตะพื้นพสุธามหานครนิวยอร์กได้แป๊บเดียวห้องเช่าก็ถูกงัด เงินสำรองที่พอจะมีอยู่หน่อยเดียวถูกขโมยหายวับไปกับตา ดังนั้นสิ่งเดียวที่ไวโอเล็ตจะทำได้คือการหางานทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีวิตต่อไป

เธอจึงไปสมัครเป็นพนักงานชงเหล้าและเสิร์ฟในคลับชื่อว่า “Coyote Ugly” ที่คลับแห่งนี้เองที่เปลี่ยนเธอให้มีความกล้ามากขึ้น รู้ทันเมืองใหญ่มากขึ้น และได้บังเอิญเจอ  “โอดอนเนล” (Adam Garcia) ชายหนุ่มรูปหล่อนัยน์ตาชวนฝันที่เข้ามาใกล้ชิด และช่วยทำลายความกลัวในใจของเธอทีละนิด ๆ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจทำให้เธอเริ่มแต่งเพลงและเดินตามความฝันที่ตั้งใจไว้ 

ว่ากันตามเนื้อผ้า หนัง Coyote Ugly ไม่ไช่หนังยอดเยี่ยมอะไร บทและการแสดงของดาราในเรื่องยังลักลั่นด้วยซ้ำ มันมีความไม่สุดของการแสดงปรากฏให้เห็นอยู่ทั้งเรื่อง แต่หนัง “ตลาด” เรื่องนี้มันมีองค์ประกอบความบันเทิงครบพอที่จะกลายเป็นหนังในใจหลาย ๆ คนของยุคนั้น หนังเดินเรื่องได้ฉับไวไม่เยิ่นเย้อ มีฉากเมโลดรามาประโลมโลกให้ยิ้มประปราย ที่เซอร์ไพรส์คนดูพอสมควร คือ มีซุปเปอร์โมเดลอย่าง Tyra Banks ร่วมแสดงร่วมเต้นแบบมัน ๆ ในหนัง

แถมเพลงประกอบยังติดหูมากซะด้วย โดยเฉพาะเพลง Can’t Fight the Moonlight ที่ได้แจ้งเกิด Leann Rimes นักร้องสายคันทรีชื่อดังฝั่งอเมริกา (ที่ดังในประเทศมานานแล้ว) ให้เป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมเพลง POP กระแสหลักของโลกมากขึ้น และเพลงนี้ก็ยังคงติดหูชาวบ้านชาวช่องมาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีอีกเพลงบัลลาดที่ Leann Rimes ถ่ายทอดอารมณ์ได้ไพเราะมาก คือ Please Remember รวมทั้งเพลงสนุก ๆ อีกหลายเพลงที่อัดแน่นในซีดี เรียกได้ว่าเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดัน Leann Rimes ก็ว่าได้

ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ฮิตมั้ย… ก็ต้องตอบว่าในระดับโลกก็เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ดังกลางๆ แต่สำหรับเมืองไทย Coyote Ugly หรือชื่อไทย “บาร์ห้าว สาวฮอต” มันคือปรากฏการณ์ความดังที่ดังมาก ดังถึงขนาดทำให้มีร้านที่มีโคโยตี้เต้นๆแบบในหนังโผล่มาหลายร้านและคำว่า “โคโยตี้” ก็ได้กลายเป็นคำทับศัพท์เฉพาะแบบไทยๆที่หมายถึงการเต้นประกอบเพลงด้วยลีลายั่วยวน (ดร. นววรรณพันธุเมธา. 2563. คลังคำ. หน้า 233) ถ้าอยากรู้ว่าเต้นแบบไหนก็ลองไปหามาดู

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของ Coyote Ugly คือ คอสตูมของนักแสดงในเรื่องที่ ได้ Marlene Stewart ซึ่งสร้างชื่อเสียงจากการร่วมออกแบบชุดสำหรับคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกอย่าง Madonna, Cher,  และ Janet Jackson โดย Marlene Stewart ได้ดัดแปลงและผสมผสานความเป็นร็อคแอนด์โรลล์กับฮิปปี้เข้ามาในเสื้อผ้าของนักแสดงแต่ละคน เพื่อสะท้อนคาแรกเตอร์ตัวละครที่ต่างกันไป แม้แต่นิตยสาร Vogue เองยังกล่าวว่า ถึงแฟชั่นในหนังเรื่องนี้จะล่วงเลยมาตั้ง 20 ปี แล้ว แต่สไตล์เซ็กซี่แบบนี้ยังดูสดอยู่เสมอ และถ้าผู้หญิงสักคนจะลุกขึ้นมาแต่งตัวเปรี้ยว ๆ สนุก ๆ บ้าง ลุคในแบบ Coyote Ugly ก็น่าสนใจไม่น้อย

อีกประเด็นที่ต้องชมในหนังเรื่องนี้ คือ การส่งเสริมภาพลักษณ์ของคนทำงานกลางคืน เพราะสาวโคโยตี้ที่บาร์แห่งนี้ตั้งกฎให้ตัวเองชัดเจนว่า พวกเธอคือ “เอนเตอร์เทนเนอร์” ที่ทำหน้าที่ชงเหล้าและเต้นไปตามจังหวะดนตรี พวกเธอสวย พวกเธอเซ็กซี่ แต่ไม่ขายตัว เพราะชีวิตกลางคืนไม่จำเป็นต้องจบลงที่จุดนั้นเสมอไป งานกลางคืนก็เป็นอีกแค่อาชีพหนึ่งที่เป็นหนทางเลี้ยงตัวให้รอด เพื่อพาตัวเองไปถึงฝั่งฝัน ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด ขอเพียงเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และกล้าที่จะต่อสู้ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่เราต้องการ อาจต้องล้มบ้างลุกบ้างตามประสามนุษย์ที่ต้องเจอบททดสอบของชีวิต แต่เราก็ยังสามารถสร้างกำลังใจให้ตัวเองให้กล้าที่จะคว้ามันให้ได้ แค่นี้ชีวิตแสนสั้นของเราก็เปี่ยมไปด้วยความหมายแล้ว


อ้างอิง

  • Raise a Glass to the 20th Anniversary of Coyote Ugly. www.eonline.com
  • 20 Years On, Coyote Ugly’s Wild Style Still Feels Fresh. www.vogue.com

เรื่องโดย