Kind Places

“คลองสาน” จากย่านเก่าที่เต็มไปด้วยตึกร้าง สู่เมืองนวัตกรรมที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมชาวกรุง


ตึกแถว ที่ร้างเก่า และบ้านเรือนอยู่ติด ๆ กัน คือภาพที่คนภายนอกมองเข้าไปยังคลองสาน ย่านเก่าแก่ฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันภาพจำนี้กลับเป็นเสน่ห์ของชุมชนเก่าที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนสามารถสร้างคำนิยามของย่านวัฒนธรรมนี้ว่า “ย่านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์”

เช่นเดียวกับที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การเข้ามาของรถไฟฟ้าหลายสาย ไม่เพียงทำให้ย่านคลองสานกลายเป็นทำเลทองของนักพัฒนาที่ดิน อสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังช่วยชุบชีวิตให้เมืองเก่าที่แวดล้อมไปด้วยวัด ชุมชนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการสร้างเครือข่ายชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อรองรับความเจริญที่เข้ามาและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับคนในพื้นที่จึงทำให้เกิดพื้นที่นวัตกรรมย่านคลองสานเกิดขึ้น

คลองสาน ย่านวัฒนธรรมที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์

“คลองสาน” เป็น 1 ใน 10 “ย่านนวัตกรรม” ซึ่งเป็นโครงการภายใต้นโยบายและการสนับสนุนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ รับผิดชอบดูแลเพื่อพัฒนาเมือง สร้างเศรษฐกิจและนวัตกรรมให้เกิดในพื้นที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เพื่อพัฒนาศักยภาพของคลองสาน ที่จะคงเอกลักษณ์ของความเป็นพื้นที่สีเขียวและธุรกิจเดิมในพื้นที่ และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังร่วมกับเครือข่ายศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

สำหรับพื้นที่คลองสานมีความหลากหลายของวัฒนธรรมและการอยู่อาศัยร่วมกัน เช่น ชุมชนมัสยิดสุวรรณภูมิ ชุมชนวัดเศวตฉัตร เป็นต้น นอกจากนี้ในอดีตยังเป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งพืชผลทางการเกษตร มีโกดังเก็บพืชผลทางการเกษตร และยังมีกลุ่มธุรกิจยาขนาดเล็กและกลุ่มเครื่องหนังที่ทำธุรกิจในลักษณะขายส่งในพื้นที่นี้อีกด้วย

Photo Credit: kapook.com

ขณะเดียวกันสิ่งที่ชุบชีวิตคลองสาน คือ ระบบขนส่งมวลชน ที่สามารถเชื่อมคลองสานไปยังเขตเศรษฐกิจ สาทร สีลม สุขุมวิท ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และยังเชื่อมต่อไปยังพื้นที่เขตเมืองเก่าเกาะรัตนโกสินทร์ เชื่อมจุดสำคัญในฝั่งพระนครเกือบทั้งหมด คลองสานจึงเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของฝั่งธนบุรี

Photo Credit: Ed van der Vlies/ Google Street View


นอกจากนี้การคมนาคมโดยรถไฟฟ้ายังทำให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่คลองสานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และทั้งหมดสามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ทั้งทางเรือ รถไฟ และการเดินเท้า

จุดเด่นย่านคลองสานคือเป็นเมืองเชื่อมต่อกันหมด เช่น คนฝั่งพระนคร สามารถเดินทางท่องเที่ยวด้วยการลงรถไฟฟ้าที่สถานีอิสรภาพ ก็สามารถเดินเที่ยวชมวัดในย่านเมืองเก่าฝั่งธนบุรี ได้ เช่น วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร โบสถ์คริสต์ วัดซางตาครู้ส ชุมชนกุฎีจีน วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และสามารถเดินท่องเที่ยวต่อไปยังวัดอนงคารามวรวิหาร ท่าดินแดง ล้ง 1919 และ The Jam Factory ขณะเดียวกันคนฝั่งธนฯ สามารถลงเรือข้ามไปฝั่งเกาะรัตนโกสินทร์ โดยลงที่สถานีสนามไชย เที่ยวชมวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ท่าเตียน ท่าราชวรดิฐ วัดสุทัศน์ หรือหาของอร่อยรับประทานแถวศาลเจ้าพ่อเสือได้



“ไม่มีพื้นที่ใดโดดเด่นเหมือนคลองสาน สะดวกทั้งการเดินทางทางบกและทางน้ำ มีพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่มีวันเงียบเหงา ความเจริญริมแม่น้ำขยายตัวขึ้นมาก เพราะเสน่ห์ความเป็นเมืองเก่าที่สร้างใหม่ไม่ได้ โอกาสทางการท่องเที่ยวและทางธุรกิจคลองสานจึงมีศักยภาพที่พร้อมมาก” อาจารย์ไมเคิลปริพล ตั้งตรงจิตร คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มจธ. กล่าว

เปลี่ยนภาพลักษณ์ “ย่านเก่า” สู่ “ย่านนวัตกรรม” คลองสาน

สิ่งหนึ่งที่รักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมเก่าของคลองสานไว้คือ ความเป็นเมืองที่แน่น บ้านเรือนอยู่ติด ๆ กันทั้งวัด ชุมชน สามารถเดินเชื่อมกันได้หมด ไม่มีถนนใหญ่ตัดผ่าน นอกจากศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวแล้ว พื้นที่ย่านคลองสานยังมีตึกแถว ที่ร้างเก่า ที่อยู่ในรัศมีไม่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้ามากนัก ทาง มจธ. จึงเห็นว่าเพื่อเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ และไม่ปล่อยให้เกิดภาพความเสื่อมโทรมในพื้นที่ แนวความคิด Creative Sharing Space จึงเกิดขึ้น


ดร.กัญจนีย์ พุทธิเมธี อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในฐานะหัวหน้าโครงการย่านนวัตกรรมคลองสาน เปิดเผยว่า โครงการนี้ฯ อยู่ระหว่างขอทุนเพื่อทำแอปพลิเคชันเก็บข้อมูล และอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยกับเจ้าของอาคารต่าง ๆ เพื่อแนะนำ ให้ข้อมูล ในเรื่องการปรับปรุงพื้นที่ ให้เกิดการเช่าหรือขาย จุดประสงค์อยากให้เกิดการเช่า เพราะการเช่าจะเป็นการแชร์ทั้งทรัพยากรและรายได้ให้เจ้าของเดิม และคนลงทุนใหม่

กลุ่มสตาร์ทอัพ มีความนิยมที่จะใช้พื้นที่ใกล้กับรถไฟฟ้า ไม่เน้นเรื่องที่จอดรถ ไม่เน้นเช่าอาคารสำนักงาน และนิยมนำตึกเก่ามาปรับปรุงเพื่อสร้างแบรนด์ให้เข้ากับความเป็นตัวตนของธุรกิจของเขา ซึ่งตึกเก่าย่านคลองสานตรงใจและตอบโจทย์


อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบโจทย์การสร้างพื้นที่นวัตกรรมและการพัฒนาเมือง การสร้างเครือข่ายในพื้นที่ให้เข้มแข็งก็เป็นส่วนสำคัญในพื้นที่นวัตกรรมย่านคลองสาน ซึ่งผลจากการทำงานร่วมกับชุมชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ จึงเกิดเป็นเครือข่ายคลองสาน เช่น สำนักงานเขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และหน่วยงานเอกชน เช่น ไอคอนสยาม ล้ง 1919 และสิงห์เอสเตท


ทั้งนี้ การวางแผนการจัดการในพื้นที่ เจ้าของพื้นที่ต้องมีส่วนในการวางแผน สร้างความรู้สึกของการเป็นเจ้าของให้กับชุมชนเนื่องจากจะเป็นทางอนุรักษ์พื้นที่ที่ดีที่สุด เห็นได้จากการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผ่านมา เช่น กลุ่มธุรกิจเครื่องหนังในพื้นที่เริ่มต่อยอดธุรกิจเอง มีโรงเรียนสอนทำเครื่องหนัง มีโรงแรมที่พักแบบโฮสเทล และในงาน “คลองสานเฟส 2019” เทศกาลปล่อยของย่านคลองสาน ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่ทำให้ชุมชนเห็นการสร้างโอกาสในการก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเองกับเครือข่ายที่ช่วยกันสร้างขึ้นมา และไปต่อยอดโครงการอื่น ๆ ในชุมชนต่อไป

แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ความเจริญที่เกิดขึ้นย่อมมีผลกระทบตามมาเช่นกัน ทั้งเรื่องมลพิษทางอากาศ การรุกล้ำลำคลองและเรื่องน้ำท่วม เนื่องจากเขตคลองสานมีพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาหลายกิโลเมตร โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมจากการหนุนของน้ำทะเล หรือการเพิ่มของระดับน้ำทะเลในอนาคตเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้และเป็นปัญหาใหญ่


ทีมดำเนินงานโครงการคลองสานย่านนวัตกรรม ได้ใช้เครือข่ายการประชุมจากเวทีนักวิชาการนานาชาติ มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล โอกาสที่จะเกิดและการแก้ปัญหา โดยมีการแลกเปลี่ยนทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เป็นต้น และมีการพูดคุยกับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาข้ามชาติ เช่น AECOM Thailand กลุ่มธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ กลุ่ม DTGO พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไอคอนสยาม โดยกลุ่มธุรกิจใหญ่ ๆ เหล่านี้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและมีการเตรียมป้องกันไว้แล้ว เช่น ห้างสรรพสินค้าและคอนโดที่สร้างใหม่มีความสูง จึงอาจกระทบน้อย แต่ธุรกิจก็อาจจะอยู่ไม่ได้หากพื้นที่โดยรอบได้รับผลกระทบ จึงพยายามผลักดันให้มีการพูดคุยในระดับชาติมากขึ้น

โดยคาดการณ์ในอีก 50-100 ปีข้างหน้า หากปัญหาสภาวะโลกร้อนรุนแรงมากขึ้น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และการยกตัวของน้ำทะเล (Storm Surge) ขึ้นได้ มีการทำแบบจำลองกรณีเกิด Storm Surge หรือ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล (Sea Level Rise) ว่าระดับน้ำท่วมจะสูงกี่เมตร มีพื้นที่ใดบ้างที่น้ำจะท่วม และหากยอมรับความเสี่ยงจะปล่อยให้ท่วมได้แค่ไหน เป็นต้น

Photo Credit: Kawin Piboonsawat


นอกจากน้ำท่วมแล้วยังมีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ที่ทางทีมโครงการฯ ได้เก็บข้อมูลใน 4 เขต ได้แก่ คลองสาน ธนบุรี จอมทอง และทุ่งครุ เพื่อหาแนวทางลดผลกระทบโดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวและน้ำ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่มีความหมายสำหรับคนเมือง ในการที่จะรักษาสภาพความเขียวของเมืองและพื้นที่คลองไว้ ไม่ให้ถูกรุกล้ำหรือทำลาย

การพัฒนาปรับเปลี่ยนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะย่านที่มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความเข้าใจของคนในชุมชนและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์นี้ ควบคู่กับการนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาเมือง จึงทำให้สามารถเปลี่ยนผ่านคลองสานย่านวัฒนธรรมเก่าแก่สู่ย่านแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ได้


ที่มา / ภาพ

  • ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการย่านนวัตกรรมคลองสาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)

เรื่องโดย