Adam Ashdown เป็นช่างไม้ในตอนกลางวัน ส่วนยามค่ำคืนนั้นเขาคือ ศิลปินที่ฝึกฝนการสร้างผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เกี่ยวกับ “ปลาตาย” และ “หมึกสีดำ”
Adam Ashdown เป็นศิลปินนักวาดในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (WA) ที่กำลังฝึกฝนศิลปะที่เรียกว่า “เกียวทาคุ” (Gyotaku)* ซึ่งคือ การทำภาพพิมพ์หมึกแบบธรรมชาติโดยใช้ปลาที่เพิ่งตายใหม่ ๆ มาทาหมึกดำและพิมพ์ตัวปลาลงบนกระดาษ ศิลปะลักษณะนี้เป็นวิธีการพิมพ์แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นซึ่งมีมาตั้งแต่กลางปี ค.ศ. 1800 เพื่อเก็บภาพปลาที่จับได้ในแต่ละวัน ก่อนที่จะมีการประดิษฐ์กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ และโซเชียลมีเดีย ชาวประมงเก็บภาพพิมพ์เหล่านี้ไว้เป็นบันทึกประจำวัน และกิจวัตรนี้ก็ยังคงดำเนินอยู่ในเมือง Dunsborough บริเวณชายฝั่งของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย
“เมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งในนิวเซาท์เวลส์กำลังโฆษณาวิธีที่จะทำให้ปลาที่คุณจับได้เป็นอมตะ” Mr. Ashdown กล่าว “ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ตอนนั้นผมเดินทางไปทั่วออสเตรเลียและกลับมา และด้วยความเป็นชาวประมงที่ต้องหาปลาอยู่ตลอดเวลา ผมคิดว่าผมจะลองทำดู”
“ผมเพียงแค่สนุกกับการทำมัน ทว่ากลับเปลี่ยนจากงานอดิเรกกลายเป็นสิ่งที่จริงจัง เพราะมีแต่คนเอาปลามาให้ผม จนตอนนี้ผมได้ปลาที่มีคนส่งมาให้จากทั่วทั้งรัฐ” Mr. Ashdown กล่าว
Photo Credit: Tim Campbell
เพราะความสดใหม่คือสิ่งที่ดีที่สุด
Adam Ashdown ทำงานกับปลาที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน อย่างดูฟิช (Dhufish) และปลากะพง (Snapper) ที่จับได้ในทางตอนใต้ รวมถึงปลากะรังจุดฟ้าจุดเล็ก (Coral Trout) และปลากะพงแดงหน้าตั้ง (Red Emperor) ที่จับได้จากทางตอนเหนือ และเขายินดีที่จะสร้างความทรงจำแม้จะมีปลาเฮอริ่ง (Herring) เพียงเล็กน้อยก็ตาม เขาบอกว่า ปลาสดดีกว่าและการเตรียมการให้พร้อมก็เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การพิมพ์ภาพดูเป็นธรรมชาติ
“ผมทำให้มันแห้งก่อนแล้วจึงกางครีบออกเพื่อให้มันดูดี”
“จากขั้นตอนนี้ โดยพื้นฐานจะเป็นการใส่หมึกลงไป จากนั้นก็ใช้มือเอากระดาษทาบด้านบน”
“หากใส่หมึกมากเกินไปก็จะไหลทะลุกระดาษ ดังนั้นอัตราส่วนจึงสำคัญมาก” เขากล่าว
ปลาจะถูกนำไปบริโภคเสมอหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการพิมพ์
“ผมให้เวลาตัวเองสองสามชั่วโมงจากนั้นผมก็ล้างออก เพราะวัตถุดิบทั้งหมดสามารถใช้น้ำล้างออกได้ จากนั้นผู้คนก็มารับปลาของตนไปบริโภคในภายหลัง”
“ผมไม่ชอบการสิ้นเปลืองปลาหรือแค่มีปลาเพียงเพื่อจุดประสงค์ทางศิลปะ หากแต่กระบวนการคือ การจับปลาได้ และมาทำให้เป็นอมตะ (มาทำงานศิลปะ) และจากนั้นก็นำไปกินได้ – นั่นก็คือความสมบูรณ์แบบ” เขากล่าว
Photo Credit: Tim Campbell
ไม่ใช่แค่เก่งในการวาดภาพปลาเท่านั้น
Mr. Ashdown เป็นหนึ่งในศิลปินท้องถิ่นจากจำนวนทั้งหมด 103 คนที่เข้าร่วมโครงการ Margaret River Region’s Open Studios โดยตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะเปิดประตูสตูดิโอให้กับผู้เยี่ยมชม เพื่อให้พวกเขาได้เห็นกระบวนการเบื้องหลังงานศิลปะของเขา งานนี้กำหนดจัดงานไว้ตอนแรกคือในเดือนเมษายน แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากข้อจำกัดของ COVID-19
“ผมดีใจมาก ๆ ที่จะได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ และตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันผลงานของผมกับคนอื่น ๆ” เขากล่าว
“ในอดีตตอนที่ผมแสดงงานศิลปะที่ตลาด ผู้คนคิดว่าผมเก่งแค่การวาดภาพปลา แต่การได้เห็นกระบวนการ – ซึ่งเป็นรูปแบบของการพิมพ์ที่เป็นธรรมชาติ และมันก็น่าประทับใจเมื่อได้เห็น”
“ผมอยากจะเฉลิมฉลอง Gyotaku ผมรักการตกปลา และผมชอบที่จะสร้างสรรค์ มันเป็นความรักสองอย่างที่ผมรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสิ่งที่จะทำให้ผู้คนสนุก และเพลิดเพลิน”
Photo Credit: Tim Campbell
“เกียวทาคุ” ในอีกด้านของซีกโลกตะวันตก
“Naoki Hayashi” อีกหนึ่งศิลปินเกียวทาคุเชื้อชาติญี่ปุ่นที่ผันตัวมาใช้ชีวิตอยู่ที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ซึ่งยังคงสืบทอดรูปแบบศิลปะโบราณนี้ไว้ ด้วยการทำเกียวทาคุในสไตล์ของชาวฮาวาย
“ที่นี่เราถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติและทะเลที่สวยงาม ผมเติบโตมากับการดำน้ำและการตกปลา โดยเพื่อนของปู่ผมคนหนึ่งเขารู้จักวิธีการทำ ‘เกียวทาคุ’ และเขาก็แบ่งปันการทำศิลปะนั้นกับผม ทุก ๆ ครั้งที่จับปลาได้ ผมก็สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้”
กระบวนการทำเกียวทาคุนั้นมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับแนวทางของ Hayashi นั้น เน้นความเรียบง่ายอย่างแท้จริง เขาออกไปจับปลา และนำกลับมา จากนั้นใช้สีที่มีสวนผสมของน้ำซึ่งไม่มีอันตรายระบายลงไปที่ตัวปลา และกดกระดาษลงที่ตัวปลา หลังจากนั้นก็นำไปลงสี เขาบอกว่า “เมื่อผมเพิ่มสีลงไป พื้นผิวและการเคลื่อนไหวทั้งหมด จะแสดงออกมาถึงความมีชีวิตชีวา พอคุณมองพวกมันในกรอบรูป ทำให้เห็นเหมือนปลาว่ายน้ำได้มากกว่าแค่หยุดนิ่ง”
แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอสำหรับเขา Hayashi เล่าว่า เขาอาจจะพิมพ์ภาพปลาออกมาได้ประมาณพันตัวต่อปี สำหรับการทำเกียวทาคุของเขา เมื่อนำไปจัดแสดงในแกลลอรี่ราคาก็จะอยู่ที่ระหว่าง 100 ถึง 20,000 ดอลล่าสหรัฐฯ แต่อีกส่วนที่มีความสำคัญเลยสำหรับการทำเกียวทาคุก็คือ การที่เขาสามารถเพลิดเพลินกับเรื่องที่กำลังพิมพ์ภาพได้ พร้อมกับการได้กินปลาและสนุกไปกับมันอย่างเต็มที่
Photo Credit: Tim Campbell Photo Credit: Tim Campbell
“ผมมีความคลั่งไคล้ในการตกปลา และมีความหลงใหลในธรรมชาติ ผมเรียนรู้ตั้งแต่เด็กว่าสิ่งรอบ ๆ ตัว มันสวยงามแค่ไหน ผมได้รับพลังจากธรรมชาติ และผมบันทึกมันลงไปในกระดาษพร้อมกับแบ่งปันไปยังผู้คนบนโลก นั่นคือสิ่งที่ผมรักที่จะทำ” เขากล่าวทิ้งท้าย
*“เกียวทาคุ” (Gyotaku) แปลเป็นไทยว่า “ภาพพิมพ์ปลา” ตามตำนานเล่าว่า เกิดขึ้นครั้งแรกโดยซามูไรที่ชอบตกปลาท่านหนึ่ง แต่จากหลักฐานที่พบ เกียวทาคุเกิดขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 (สมัยเอโดะ) ซึ่งชาวประมงญี่ปุ่นจะนำปลาที่ตกได้ มาพิมพ์ด้วยหมึกดำลงบนกระดาษ เพื่อบันทึกลักษณะและขนาดของปลา โดยเป็นทั้งการเก็บข้อมูลและความประทับใจในผลงานส่วนตัว
ที่มา
- Ellie Honeybone. Meet the WA fisherman turning dead trophy fish into detailed works of art. www.abc.net.au/news
- Flagfog. ภาพพิมพ์ปลา. www.blockdit.com/posts
เรื่องโดย
