*มีการเปิดเผยเนื้อหาส่วนสำคัญของภาพยนตร์*
The Secret Life of Walter Mitty เป็นทั้งชื่อของเรื่องสั้นจากปลายปากกา เจมส์ เธอร์เบอร์ (James Thurber) เมื่อปี ค.ศ. 1939 และชื่อของภาพยนตร์แนวคอมเมดี้-ดราม่า กำกับและนำแสดงโดย เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) ในปี ค.ศ. 2013 ว่าด้วยเรื่องของนาย วอลเตอร์ มิตตี้ ชายผู้ติดอยู่ในฝันกลางวันของตนเองกับการเดินทางของเขา
ก่อนจะเปิดเผยเนื้อหา The Secret Life of Walter Mitty ฉบับเรื่องสั้นสามารถอ่านได้ที่
www.newyorker.com
Short Fiction: The Secret Life of Walter Mitty
(1983)
◍ ◍ ◍
ในฉบับเรื่องสั้น เจมส์ไม่ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับนายวอลเตอร์ มิตตี้ผู้นี้มากนัก ผู้อ่านรับรู้แค่ว่าเขากำลังขับรถไปส่งภรรยาทำผม แวะซื้อของตามที่เธอสั่งไว้ และกลับไปรับเธอ โดยระหว่างกิจวัตรทั่วไปในวันธรรมดาของเขา ผู้อ่านจะได้เห็นฝันกลางวันหลายเรื่อง ทั้งหน่วยบินรบของกองทัพอากาศ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และกัปตันผู้ไม่กลัวตาย โดยมีเสียง “pocketa-pocketa” เป็นคำใบ้ว่าเขากำลังอยู่ในฝันกลางวัน
Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com
Films: The Secret Life of Walter Mitty
(2013)
◍ ◍ ◍
นายวอลเตอร์ มิตตี้ เวอร์ชั่นภาพยนตร์ยังไม่ได้แต่งงานและไม่ได้ขับรถไปส่งใครทำผมแต่อย่างใด เขาเป็นผู้จัดการประจำแผนกฟิล์มผู้ใช้ชีวิตไปวัน ๆ สวนทางกับชื่อนิตยสารที่เขาทำงานอยู่อย่าง Life Magazine และฝันถึงการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ และน่าตื่นเต้นเหมือนในภาพยนตร์ฮีโร่กู้โลก
ชายหนุ่มธรรมดากับสกิลการเพ้อฝันที่ไม่ธรรมดา ก็มีความรักเช่นมนุษย์ปุถุชนคนอื่น ๆ นายวอลเตอร์ มิตตี้ ฉบับภาพยนตร์ ตกหลุมรักข้างเดียวกับเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศเดียวกันอย่าง เชอริล เมลฮอฟฟ์ (Cheryl Melhoff) หญิงสาวที่เป็นทั้งเรื่องเพ้อฝันและเป็นแรงบันดาลใจให้เขาออกเดินทางทั้งในจินตนาการและโลกแห่งความเป็นจริง
Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com
ชีวิตธรรมดาของเขาเริ่มสั่นคลอน เมื่อ Life Magazine จะยุติการพิมพ์เพื่อปรับเป็นนิตยสารออนไลน์แทน แน่นอนว่าแผนกฟิล์มโดนยุบเป็นแผนกแรก เรื่องน่าตื่นเต้น (ทั้งในแง่ดีและร้าย) เริ่มต้นขึ้นเมื่อฟิล์ม #25 สำหรับภาพหน้าปก Life Magazine ฉบับสุดท้ายเกิดหายไป นายวอลเตอร์ มิตตี้ผู้รับผิดชอบงานนี้จึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาฟิล์มม้วนนั้นให้เจอ!
ระหว่างการเดินทางตามหาฟิล์มม้วนสำคัญที่หายไปนั้น นอกจากภาพทิวทัศน์สวย ๆ แล้ว ก็จะได้เห็นการเติบโตของตัวละครอย่างนายวอลเตอร์ มิตตี้ การผจญภัยที่เคยเป็นแค่ฝันกลางวันเริ่มขยับกลายเป็นความจริง ความกล้าที่เคยมีแค่ในจินตนาการก็กลายเป็นจริง และหญิงสาวที่เคยเป็นเรื่องเพ้อฝันก็กลายมาเป็นคนในชีวิตจริงของเขาเช่นเดียวกัน
Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com Photo Credit: youtube.com
คนช่างฝันกับฝันที่เป็นจริง
◍ ◍ ◍
เบน สติลเลอร์ หยิบไอเดียจาก The Secret Life of Walter Mitty ฉบับเรื่องสั้น มาขยายความเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น เรื่องราวขำขันของนายวอลเตอร์ช่างฝันที่มองเห็นอะไรก็เก็บไปจินตนาการได้หมด กลายเป็นเรื่องราวของนายวอลเตอร์ช่างฝันที่ออกไปทำความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง
วิธีการเล่าเรื่องของภาพยนตร์ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ทำให้ลุ้นตามอยู่เหมือนกัน หนึ่งในเหตุผลที่เรื่องราวแสนเรียบง่ายของ The Secret Life of Walter Mitty ได้คะแนน IMDb ไปถึง 7.3/10.0 คงเป็นเพราะความรู้สึกร่วมที่มีให้กับตัวละคร หลายคนน่าจะเคยเป็นเหมือนนายวอลเตอร์ มิตตี้ ที่มีความฝันแต่ยังไม่กล้าเริ่มสักที ด้วยเงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกัน บนโลกใบนี้ที่ต้องดิ้นรน บางคนอาจจะยังจำได้ บางคนอาจจะยังมีหวัง หรือบางคนอาจจะลืมไปแล้ว
Photo Credit: Imdb.com
นอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมหวนกลับไปนึกถึงความฝันของตัวเองอีกครั้ง ก็เป็นการปลอบโยนผู้คนที่เดินบนเส้นทางปัจจุบันของตนเอง ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในฉากที่ประทับใจใครหลาย ๆ คนคือฉากจบ เมื่อ ฟิล์ม #25 ที่ปรากฏบนหน้าปก Life Magazine ฉบับสุดท้าย คือภาพของนายวอลเตอร์ มิตตี้ ผู้จัดการแผนกฟิล์มที่กำลังตรวจภาพพิมพ์จากม้วนฟิล์ม (Contact Sheet) อยู่หน้าตึกสำนักงาน Life Magazine นั่นเอง
Photo Credit: redbubble.com
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้บอกว่าต้องวิ่งตามความฝันชีวิตจึงจะคุ้มค่า นายวอลเตอร์ มิตตี้ก็มีคุณค่าในฐานะผู้จัดการแผนกฟิล์มเช่นกัน หน้าปกของ Life Magazine ตลอดหลายปีที่ผ่านมาล้วนเป็นผลงานของเขา
Secret Life of Walter Mitty กำลังบอกว่าชีวิตจะเป็นแบบที่เคยฝันเคยตั้งใจไว้หรือต่างออกไปสุดกู่ ไม่ได้สำคัญเท่าความรู้สึกของเราว่าพอใจและมีความสุขกับมันแล้วหรือยังต่างหาก