❛❛
เราอยู่ในยุควิกฤตเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้นำ เราต้องรับผิดชอบต่อการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการบริษัทและแบรนด์ที่ให้คุณค่ากับโลกและสังคม มากกว่ามุ่งหวังเพียงแค่ผลกำไร
❜❜
วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมการดำเนินธุรกิจสะดุดไปบ้าง ทั้งการผลิตที่หยุดชะงักกับรายได้และกำลังซื้อที่ลดลง ล้วนส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันไป จึงเป็นเรื่องน่าจับตาว่าแต่ละภาคธุรกิจจะหาวิธีรับมือเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร และเป็นบทพิสูจน์ถึงการบริหารองค์กรอย่างยั่งยืนภายใต้สถานการณ์เลวร้ายครั้งนี้
บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF หนึ่งในบริษัทที่มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงการพัฒนาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน โดยคุณแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง NRF เปิดเผยถึงเจตนารมณ์ของบริษัท ภายในงาน “GCNT FORUM 2020: Thailand Business Leadership for SDGs” เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ว่า บริษัทมีเป้าหมายในการทำธุรกิจให้เติบโตควบคู่กันกับการสร้างสมดุลและคำนึงถึงคนและสิ่งแวดล้อม จึงพลิกธุรกิจจากการผลิตซอสปรุงรส อาหารปรุงสำเร็จรูป เครื่องดื่ม มามุ่งเน้นพัฒนาสินค้าโดยยึดหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการผลิต เกษตรกร และสังคม รวมถึงการสร้างเครือข่ายและวางระบบการผลิตอาหารทั่วโลก เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูโลก เพราะอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร เป็นหนึ่งในต้นทางหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 40% และเกี่ยวข้องกับการจ้างงานถึง 1,500 ล้านคน
❛❛
เรามีนโยบายที่เน้นเรื่อง Inclusivity และ Sustainability เราตระหนักเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากระบบอาหาร ซึ่งเป็นปัญหาถึง 40% ของภาวะโลกร้อน
เราเชื่อว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร หรือ Food System Transformation ได้
จะทำให้โลกยั่งยืนขึ้น
❜❜
NRF มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนของโลก โดยตั้งเป้าจะเป็นผู้นำเรื่องอาหารแห่งอนาคต (Food for the Future) ได้แก่ Ethnic Foods (ผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่น) , Plant Based Food (อาหารโปรตีนจากพืช) และ Functional Food (อาหารที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ) นอกจากนี้ NRF ยังเป็นผู้ผลิตอาหารรายแรกของไทยที่เป็น Carbon Neutral หรือองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลายธุรกิจได้รับผลกระทบเชิงลบ แต่ NRF ผู้นำด้านอาหารเพื่อความยั่งยืนกลับได้รับผลตอบรับในเชิงบวก
“บริษัทเรามุ่งเน้นเรื่อง Sustainability และเชื่อว่าความยั่งยืนเป็น New S-curve ของโลก คือเรื่อง Plant Based Food และ Functional Food หลังจากเกิดวิกฤตโควิด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ Cooking from Home ซึ่งนับเป็นผลกระทบเชิงบวกของบริษัท ในช่วงวิกฤตโควิดจะเห็นว่ามีข่าวโรงเชือดสัตว์ปิดตัวลง ทั้งแถบอเมริกาและยุโรป เนื่องจากพนักงานติดเชื้อโควิด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้บริโภคก็จะหันมาทานโปรตีนทางเลือก หรือ Plant Based food มากขึ้น”
ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจที่มุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน ต่างเริ่มคำนึงถึง Carbon Tax หรือการเรียกเก็บภาษีพิเศษจากผู้ปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีเป้าหมายคือ ลดปริมาณการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ รวมไปถึงลดการสร้างขยะพลาสติก