Kindnovation

ส่อง 10 ประเทศที่ใช้แรงงาน “หุ่นยนต์” ในภาคอุตสาหกรรมสูงสุดของโลก


ปัจจุบันหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกเริ่มหันมาใช้ “แรงงานหุ่นยนต์” อย่างจริงจังมากขึ้น ล่าสุดสมาพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) ของเยอรมนี ได้เผยว่า ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นทั่วโลกในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าประเทศต่าง ๆ  ให้ความสำคัญกับการใช้ระบบอัตโนมัติในการผลิตมากขึ้น

ข้อมูลปริมาณความหนาแน่นของหุ่นยนต์ (Robot Density) ในภาคอุตสาหกรรม จากผลสำรวจใน World Robotics 2019 (อ้างอิงจาก statista.com) พบว่า ประเทศที่มีความหนาแน่นของการใช้แรงงานหุ่นยนต์มากที่สุดทั่วโลก 10 อันดับแรกในปี 2018 มีดังนี้ (อัตราส่วนการแทนที่ของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมต่อแรงงาน 10,000 คน) 

ประเทศค่าความหนาแน่น/ยูนิต
1. สิงคโปร์831
2. เกาหลีใต้774
3. เยอรมนี338
4. ญี่ปุ่น327
5. สวีเดน247
6.เดนมาร์ก240
7. ไต้หวัน221
8. สหรัฐอเมริกา217
9. อิตาลี200
10. เบลเยียม188


จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า ประเทศที่มีความหนาแน่นของหุ่นยนต์มากที่สุด 831 ยูนิต คือ “สิงคโปร์” รองลงมา 774 ยูนิต คือ “เกาหลีใต้” และความหนาแน่นที่ 338 ยูนิต คือ “เยอรมนี” 

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในประเทศสิงคโปร์นั้น สืบเนื่องมาจากรัฐบาลสิงคโปร์ได้ตั้งเป้าพัฒนาประเทศให้เป็น “สมาร์ทซิตี้” ภายในปี 2020 โดยการเพิ่มสัดส่วนแรงงานหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ จึงเป็นหนึ่งในนโยบายแห่งชาติของรัฐบาล ทั้งเคยประกาศว่าจะพยายามผลักดันให้บรรลุเป้าหมายคือ การเป็นชาติอันดับหนึ่งที่ใช้แรงงานหุ่นยนต์สูงสุดในโลกอีกด้วย

ส่วนเกาหลีใต้นั้น ความหนาแน่นของหุ่นยนต์ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากแรงสนับสนุนของรัฐบาลที่ออกมาประกาศตั้งแต่ปี 2016 ว่าจะทุ่มเม็ดเงิน 450 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยใช้เงินจำนวนนั้นสำหรับการพัฒนาศูนย์วิจัยและการพัฒนาระดับองค์กร 

และ “เยอรมนี” เจ้าแห่งผู้ผลิตรถยนต์และตลาดหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป โดยแรงงานหุ่นยนต์ถูกนำมาใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้ว และในปี 2018 พบว่ามีแรงงานหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 338 ยูนิต ต่อแรงงานคน 10,000 คน เทียบกับปีก่อนหน้านั้นที่มี 309 ยูนิต

นอกจากนี้ หากแยกความหนาแน่นของหุ่นยนต์ตามภูมิภาคโลกโดยเฉลี่ยต่อแรงงาน 10,000 คน พบว่า “ยุโรป” มีความหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 114 ยูนิต “อเมริกา” มีความหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 99 ยูนิต และ “เอเชีย” มีความหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 91 ยูนิต 

การใช้หุ่นยนต์ในการผลิตภาคอุตสาหกรรมนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้หรือสิงคโปร์ และในระยะหลังประเทศตลาดเกิดใหม่แถบเอเชีย รวมทั้งไทยเองก็เริ่มหันมาใช้หุ่นยนต์ในการผลิตมากขึ้นเช่นกัน การศึกษาเรียนรู้ และเปิดรับนวัตกรรมใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือให้ทันสังคม และยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา

แม้ทิศทางการใช้หุ่นยนต์ในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ากลับมีผลกระทบอยู่เช่นกัน โดยรายงานของสถาบัน MCKinsey Global Institute ได้เผยถึงข้อมูลการคาดการณ์ว่าในปี 2030 จะมีแรงงานจำนวนมากถึง 400-800 ล้านคนทั่วโลกที่มีความเสี่ยงภาวะตกงาน หรือถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือหุ่นยนต์ และอาจทำให้งานบางประเภทสูญหายไป หรืออาจมีงานประเภทใหม่เกิดขึ้นมา


ที่มา

  • Gripping M&A – The extending arm of robotics. www.dcadvisory.com
  • หุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม: กระแสใหม่ที่แรงงานต้องกังวลจริงหรือ?. www.bot.or.th/Thai
  • “แรงงานหุ่นยนต์” บุกเอเชีย “เกาหลีใต้” แชมป์ใช้ “โรบอต” แทนมนุษย์. www.prachachat.net/world-news
  • Manufacturing industry-related robot density in selected countries worldwide in 2019. www.statista.com/statistics

เรื่องโดย

ภาพโดย