Kind Health

ชาววีแกนเสี่ยงกระดูกหักมากกว่าสายกินเนื้อ


กินอย่างสมดุล ลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ

ชาววีแกน (Veganism) มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะกระดูกหักมากกว่าคนที่กินเนื้อสัตว์และปลา ตามงานวิจัยใหม่ของ EPIC-Oxford ที่ใช้เวลาในการศึกษาเฉลี่ย 18 ปี โดยการศึกษาสำรวจจากคนกว่า 55,000 คน ซึ่งเกือบ 2,000 คนเป็นชาววีแกน


ผลวิจัยพบว่า ผู้ที่ไม่กินเนื้อสัตว์มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการกระดูกหักประเภทใดก็ได้มากกว่า 43 เปอร์เซ็นต์ และพบว่าจากทั้งหมดมีผู้กระดูกหักถึง 3,941 คน ซึ่งความแตกต่างที่ชัดเจนคือ ภาวะกระดูกสะโพกหัก โดยชาววีแกนมีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่กินเนื้อถึง 2.3 เท่างานวิจัยได้รับการตีพิมพ์ใน BMC Medicine นำโดย ดร. แทมมี่ ทง นักระบาดวิทยาทางโภชนาการของ Nuffield Department of Population Health กล่าวว่า

“เราพบว่าชาววีแกนมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกหักโดยรวมสูงกว่า ซึ่งส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกือบ 20 รายต่อ 1,000 ราย ในช่วง 10 ปีเมื่อเทียบกับคนที่กินเนื้อสัตว์”


นอกเหนือจากความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกสะโพกหักในกลุ่มคนกินมังสวิรัติและเพสคาทาเรียน (Pescatarians) หรือคนที่งดเนื้อสัตว์ยกเว้นปลา มากกว่ากลุ่มคนกินเนื้อ อีกทั้งชาววีแกนยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะกระดูกขาแตกหรือหักที่บริเวณอื่น ๆ ด้วย เช่น แขน ข้อมือ ซี่โครง และกระดูกไหปลาร้า อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลว่า กระดูกหักนั้นเกิดจากสุขภาพกระดูกที่ไม่ดีหรืออุบัติเหตุหรือไม่

ดร. ทง กล่าวเพิ่มเติมว่า “การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของพืชอย่างสมดุล สามารถส่งผลให้ระดับสารอาหารดีขึ้น และเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคหัวใจและโรคเบาหวาน”


“นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงประโยชน์และความเสี่ยงของการรับประทานอาหารและตรวจสอบให้แน่ใจว่า พวกเขามีแคลเซียมและโปรตีนในระดับที่เพียงพอและยังคงรักษาค่าดัชนีมวลกายที่ดีต่อสุขภาพ นั่นคือไม่ให้น้ำหนักต่ำกว่าหรือเกินเกณฑ์” ดร. ทง กล่าว

ตามที่ Vegan Society องค์กรที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของมังสวิรัติ ระบุว่า ในปี ค.ศ. 2019 มีชาววีแกน 600,000 คนในสหราชอาณาจักร ซึ่งคิดเป็น 1.2% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ ยังพบรายงานการเพิ่มขึ้นของผู้คนที่หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์อื่น ๆ ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า อาจเป็นเพราะค่าใช้จ่าย ความสะดวกสบาย หรือความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อสุขภาพของตัวเองอันเกี่ยวกับสัตว์และสิ่งแวดล้อม


ที่มา


เรื่องโดย